หัวข้อข่าว: ขสมก.หวั่น เมล์เอ็นจีวี ผิดสัญญา
ที่มา: โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โพสต์ทูเดย์ – ส่อล้มโครงการเอ็นจีวี ผิดเงื่อนไขสัญญา ขสมก.หารืออัยการก่อนรับมอบรถ สหภาพเดินหน้าตรวจสอบ
รายงานข่าวจากกรมศุลกากร ระบุว่า จากการตรวจสอบกรณีการนำเข้ารถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ของบริษัท ซุปเปอร์ซาร่า และ เบสท์ริน กรุ๊ป ในสัญญาได้ระบุไว้ว่าต้องนำเข้ารถดังกล่าวจากประเทศมาเลเซีย หากเป็นเช่นนั้น องค์การ ขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) อาจ ไม่สามารถรับมอบรถเมล์ล็อตดังกล่าวได้ หากพิสูจน์พบว่ารถล็อตดังกล่าวนำเข้าจากประเทศจีน
นายสุระชัย เอี่ยมวชิรสกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) เปิดเผยว่า ในร่างทีโออาร์ของโครงการประมูลรถเมล์ เอ็นจีวี ไม่ได้กำหนดว่ารถจะต้องนำเข้าจากประเทศใด โดยเปิดกว้างให้เอกชนสามารถนำเข้ารถเมล์ได้จากทุกประเทศเพื่อเปิดโอกาสทางการแข่งขันอย่างเท่าเทียม ส่วนที่ระบุให้บริษัทต้องนำเข้าจากมาเลเซียนั้นอยู่ในสัญญาส่งมอบรถระหว่าง ขสมก.และเอกชน ซึ่งในขั้นตอนการเซ็นสัญญาส่งมอบรถบริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป ระบุไว้ว่า จะนำเข้ารถมาจากประเทศมาเลเซีย
อย่างไรก็ตาม ถ้าหากกรมศุลกากรสรุปผลอย่างเป็นทางการแล้ว พบว่ารถเมล์ดังกล่าวนำเข้ามาจากประเทศจีนก็อาจทำให้ ขสมก.ไม่สามารถรับมอบรถล็อต ดังกล่าวไว้ได้ เนื่องจากขัดกับสัญญาส่งมอบรถ ทั้งนี้พร้อมได้ส่งเรื่องให้อัยการพิจารณาแล้วว่ากรณีดังกล่าวจะนำไปสู่การบอกเลิกสัญญากับเบสท์รินหรือไม่ คาดว่าอีกไม่นานจะได้ข้อสรุปถึงความชัดเจนของโครงการรถเมล์เอ็นจีวีทั้ง 489 คัน
ด้าน นายวีระพงษ์ วงศ์แหวน ประธานสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (สหภาพแรงงาน ขสมก.) กล่าวว่า กรมศุลกากรต้องออกมาชี้แจง เพื่อสร้างความกระจ่างให้กับประชาชน เนื่องจากเป็นโครงการที่รอมานาน อีกทั้งเป็นโครงการที่มีผลกระทบกับคนส่วนมาก ความล่าช้าดังกล่าวเกิดจากปัญหาระหว่างเอกชนและกรมศุลกากร ซึ่งทางเบสท์รินก็พร้อมที่จะชาระเงินเพื่อนำรถเมล์ไปส่งมอบให้ทันกับสัญญาที่ได้ให้ไว้ กับ ขสมก.
“อยากขอร้องทางกรมศุลกากรให้ออกมาชี้แจงปัญหาดังกล่าวให้เร็วที่สุด ว่าเบสท์รินมีความผิดอย่างไรและตัวเลขค่าปรับที่แน่นอนเป็นเท่าไหร่ เพื่อให้เอกชนรีบดำเนินการตามขั้นตอนเพื่อนำรถเมล์รุ่นใหม่ออกมาวิ่งให้บริการประชาชนหลังจากต้องรอกันมานาน” นายวีระพงษ์ กล่าว
นอกจากนี้ ในวันที่ 27 ธ.ค.จะเข้าไป ขสมก.เพื่อดูรายละเอียดสัญญาจัดซื้อโครงการ (ทีโออาร์) และสัญญาส่งมอบ
รถเมล์เอ็นจีวี 489 คัน ว่ามีเงื่อนไขในการซื้อและส่งมอบอย่างไรโปร่งใสมากน้อยแค่ไหน ทั้งนี้ หากพบว่า ขสมก.ทำสัญญาเพื่อเอื้อให้กับเอกชนจะเดินหน้าเรียกร้องความเป็นธรรมทันที ส่วนทางเบสท์รินถ้าสหภาพพบว่าขั้นตอนการส่งมอบรถเมล์ดังกล่าวขัดกับหลักทีโออาร์และสัญญาก็จะเดินหน้าเรียกค่าปรับเช่นกัน