หัวข้อข่าว คดี‘พงษ์ภาณุ‘ประเดิมศาลคดีทุจริต
ที่มา; มติชน ฉบับวันที่ 27 กันยายน พ.ศ. 2559
เมื่อวันที่ 26 กันยายน ที่ศาลอาญา ผู้สื่อข่าว รายงานว่า มีการนัดตรวจพร้อมและสอบคำให้การกรณีนายรณชิต แย้มสอาด ที่ปรึกษา การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) ฟ้องร้องนายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในฐานะอดีตประธานคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. และพวกรวม 4 คน ข้อหาเป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบในการทำหน้าที่สรรหาผู้ว่าการ รฟม.
ต่อมาศาลแจ้งว่าคดีนี้โอนไปศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางแล้ว และนัดสืบพยานโจทก์วันที่ 22 ธันวาคม 2559 และนัดสืบพยานจำเลยวันที่ 23 และวันที่ 28 ธันวาคม 2559 รวม 6 ปาก คาดว่าจะนัดฟังคำพิพากษาภายในเดือนมกราคม 2560
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวสืบเนื่องจากคณะกรรมการสรรหาผู้ว่าการ รฟม. ซึ่งมีนายพงษ์ภาณุเป็นประธาน กำหนดคุณสมบัติผู้สมัครรับการสรรหาดำรงตำแหน่งผู้ว่าการ รฟม. ตามข้อ 3.1.12 ว่า “ต้องไม่เป็นผู้รักษาการผู้ว่าการ รฟม. ในวันยื่นใบสมัคร” ซึ่งมีผลกระทบโดยตรงต่อนายรณชิต ที่รักษาการผู้ว่าการ รฟม.ในขณะนั้น นายรณชิตจึงฟ้องคดีศาลอาญาเพื่อดำเนินคดีกับกรรมการสรรหาทั้ง 4 คน ในข้อหาปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ซึ่งศาลชั้นต้นพิพากษาให้ยกฟ้อง แต่นายรณชิตยื่นอุทธรณ์คดี
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ต่อมา ศาลอุทธรณ์มีคำพิพากษาว่าไม่มีกฎหมายใดให้อำนาจแก่คณะกรรมการสรรหากำหนดหลักเกณฑ์คุณสมบัติอื่นเพิ่มเติมได้ และกฎหมาย รฟม.ไม่มีห้ามรักษาการผู้ว่าการ รฟม. สมัครรับการคัดเลือก การออกประกาศดังกล่าว จึงมิได้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย ทำให้เกิดความเสียหายแก่โจทก์ ที่ศาลชั้นต้นยกฟ้องนั้น ศาลอุทธรณ์ไม่เห็นพ้องด้วย อุทธรณ์ของโจทก์ฟังขึ้น จึงพิพากษากลับ ให้ประทับรับฟ้องไว้พิจารณา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า คดีดังกล่าวเป็น 1 ใน 70 คดีที่ศาลอาญาโอนคดี ไปให้ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางซึ่งเป็นศาลใหม่ และจะเริ่มเปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 3 ตุลาคมนี้