หัวข้อข่าว มนัส แจ่มเวหา ทิ้งทวนเกษียณ มหากาพย์จำนำ
ที่มา; คอลัมน์ Spotlight ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559
“มติเอกฉันท์” “ยิ่งลักษณ์” ละเลยความเสียหายโครงการจำนำข้าว 2 โครงการ ต้องชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาทหรือ 20% ของมูลค่าความเสียหาย 1.78 แสนล้านบาท
ทันทีที่ข้อมูลชุดนี้ถูกนำเผยแพร่สู่สาธารณชน พูดได้เต็มปากว่าเป็นอีกคดีทางการเมืองที่ประชาชนให้ความสนใจและติดตามกันไม่น้อย
ผลพวงจากปรากฏการณ์นี้ ชื่อของ “มนัส แจ่มเวหา” อธิบดีกรมบัญชีกลาง กระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะกรรมการพิจารณาความรับผิดทางแพ่งเรียกค่าเสียหายในโครงการรับจำนำข้าว ตกเป็นเป้านิ่งในความน่าสนใจทันที เมื่อเขาได้ลงนามสรุปผลการพิจารณาคดีนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ละเลยความเสียหายโครงการจำนำข้าว
ข้อสรุปครั้งนี้เรียกร้องค่าเสียหายจากนางสาวยิ่งลักษณ์เพียงคนเดียว เนื่องจากคณะกรรมการชุดนี้ พิจารณาความผิดตามข้อสรุปของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิด ที่มีนายจิรชัย มูลทองโร่ย เป็นประธาน ส่งเรื่องมาและเป็นไปตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูล
“ยืนยันการทำหน้าที่ของคณะกรรมการว่ามีความเป็นกลางพิจารณาตามหลักฐานและข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร และยืนยันว่าการเมืองไม่ได้แทรกแซงการพิจารณาครั้งนี้”
ดูเหมือนว่า “มนัส” จะเข้าใจสัจธรรมของอำนาจแต่ละวงที่ซ้อนทับกันอยู่เป็นอย่างดี เขาจึงทำงานที่ได้รับมอบหมายด้วยความรอบคอบและแยบยล แม้บางเรื่องจะทอดเวลา ยื้อจนนาทีสุดท้าย แต่เขาก็ไม่ทำให้ใครคนใดผิดหวังง
“มนัส” จะรู้ตัวเองดีว่า หลังลงนามรับรองสรุปความผิดทางแพ่งนางสาวยิ่งลักษณ์ “ผมคงต้องวนเวียนอยู่ตามศาลอีกต่อไปสักระยะ แต่ก็ไม่ได้กังวลเพราะถือเป็นการทำตามหน้าที่
“มนัส” ไม่แตกต่างจากผู้บริหารหน่วยงานรัฐแห่งอื่น ซึ่งหมุนเวียนความรับผิดชอบในสายงานต่างๆ อย่างรอบด้าน จากแบ็กกราวด์ปริญญาตรีนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เข้ารับราชการที่กรมบัญชีกลางเมื่อปี 2524 จนถึงปี 2547 ได้รับความไว้วางใจให้เป็น “ผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานด้านกฎหมายและระเบียบการคลัง” ก่อนขึ้นมาเป็นรองอธิบดีกรมบัญชีกลางในปี 2548
จนถึงปี 2551 ก็ได้รับเลือกให้ขึ้นไปดำรงตำแหน่งเป็นที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ก่อนจะมารับตำแหน่งเป็นผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในปี 2553 ซึ่งก็ทำหน้าที่ดังกล่าวได้ราว 1 ปี จนถึงปี 2554 ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงการคลังจนกระทั่งในปี 2555 ถึงปัจจุบัน กับตำแหน่ง “อธิบดีกรมบัญชีกลาง” ที่เหลืออีกเพียงไม่กี่วันก็จะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 กันยายน 2559
ครั้งหนึ่ง “มนัส” บอกด้วยความภาคภูมิใจ ว่าการเข้ามารับตำแหน่งอธิบดีกรมบัญชีกลาง ถือเป็นความภาคภูมิใจที่สุดในชีวิตเรื่องหนึ่ง เป็นความภาคภูมิใจที่ได้รับโอกาสที่ดี ได้รับการยอมรับจากผู้บังคับบัญชา ไปจนถึงผู้ใต้บังคับบัญชาด้วย ตรงนี้ถือเป็นกำลังใจ เป็นแรงผลักและเป็นแรงกระตุ้นให้อยากทำงานทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดี อย่างเต็มความสามารถทั้งหมดที่มีและทุกๆ วัน
“ผมเชื่อมั่นว่าหากทุกส่วนประสานความร่วมมือเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน จะทำให้การทุจริตลดน้อยลง และผมเชื่อว่าเมื่อผมเกษียณออกไปแล้ว ผมจะได้เห็นภาพนั้นอย่างแน่นอน”
อย่างน้อยที่สุดภาพหนึ่งที่ปรากฏขึ้นวันนี้ “มนัส แจ่มเวหา” ถูกสังคมมองว่าเขาเป็นทรัพยากรบุคคลชั้นเลิศอีกคนหนึ่งของระบบราชการไทย