หัวข้อข่าว จันทร์โอชา VS ชินวัตร
ที่มา; คอลัมน์ ทิ้งหมัดเข้ามุม: ข่าวสด ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559
มันฯ มือเสือ
การเมืองในรอบไม่กี่วันที่ผ่านมา *เกิดกรณีให้เปรียบเทียบกัน 2 เรื่องใหญ่เรื่องแรกคดีโครงการรับจำนำข้าวที่น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ถูกกล่าวหาปล่อยปละละเลยจนเกิดการทุจริตสร้างความเสียหายให้ประเทศชาติ
ล่าสุดคณะกรรมการกระทรวงการคลังสรุปตัวเลขกลมๆ เสียหายประมาณ 1.7 แสนล้านบาท
แยกเป็นส่วนของน.ส.ยิ่งลักษณ์ต้อง รับผิดชอบชดใช้ 3.5 หมื่นล้านบาท
ที่เหลือ 1.35 แสนล้านบาทต้องไปเฉลี่ยหนักเบาเอากับผู้ร่วมรับผิดชอบในอีกกว่า 800 คดีที่ฝ่ายรัฐต้องดำเนินการต่อไป
เช่นเดียวกับการลงนามในคำสั่งทางปกครองเรียกค่าเสียหายจากน.ส.ยิ่งลักษณ์
ต้องรอดูว่าพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ จะลงนามเองหรือให้รมว.คลัง ลงนามแทน
บางคนมองว่าถึงกฎหมายไม่ได้บังคับ แต่จะดู’แมน‘มากกว่าหากพล.อ.ประยุทธ์น่าจะลงนามเอง เหมือนตอนลงนามคำสั่งมาตรา 44 ให้อำนาจกรมบังคับคดียึดทรัพย์ผู้รับผิดคดีจำนำข้าว
นอกจากเรื่องนี้แล้วที่น่าจะสร้างความกลัดกลุ้มให้พล.อ.ประยุทธ์ไม่น้อย คือการที่มีผู้ยื่นให้ป.ป.ช.ตรวจสอบกรณีลูกชายพล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกลาโหม
มีชื่อเป็นผู้ก่อตั้งบริษัทที่ชนะการประมูลงานก่อสร้างให้กองทัพภาคที่ 3
ภายใต้เครื่องหมายคำถามเรื่อง ‘ทับซ้อน‘ ในเครือญาติทำนองนี้
ถ้าไม่ใช่ลูกหลาน’จันทร์โอชา‘ แต่เป็นลูกหลาน‘ชินวัตร-ดามาพงศ์-วงศ์สวัสดิ์‘
ป่านนี้จมดินไปแล้วหรือไม่กรณีเปรียบเทียบอีกเรื่องคือเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ปี’54
1 ใน 15 คดีที่ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการ ขึ้นมาสอบไล่เบี้ยเอาผิดกับน.ส.ยิ่งลักษณ์ข้อหาบริหารจัดการน้ำบกพร่อง
แล้วก็เหมือนฟ้าฝนไม่เป็นใจในสภาพการณ์ปัจจุบัน หลายจังหวัดทุกภาคทั่วประเทศกำลังประสบภัยพิบัติน้ำท่วมอ่วมอรทัย ไม่รู้จะไปร้องแรกแหกกระเชอกับใคร
แน่นอนว่าอุทกภัยปีนี้อย่างไรก็ไม่รุนแรงเท่ากับปี’54
ซึ่งถือเป็นโชคดีของคนไทยทั้งประเทศเนื่องจากสภาพที่เห็นและเป็นอยู่แค่นี้ ก็พอพิสูจน์ให้เห็นได้แล้วว่า
รัฐบาลชุดนี้มีฝีมือบริหารจัดการน้ำขนาดไหน