ถลุง20ล.จิ๊บจ๊อย ป้อมฮาวายแจงเงินทองไม่ไปไหน จี้สตง.สอบค่าอาหาร6แสน

หัวข้อข่าว ถลุง20ล.จิ๊บจ๊อย ป้อมฮาวายแจงเงินทองไม่ไปไหน จี้สตง.สอบค่าอาหาร6แสน

ที่มา; ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2559

 

ผู้จัดการรายวัน360 – “บิ๊กตู่” ฉะพวกจับผิด ท้าใครอยากฟ้องก็เชิญ ยัน “บิ๊กป้อม” ไปทำประโยชน์ให้ชาติ “ประวิตร” เชื่อมีคนตั้งใจเล่นงาน แต่ไม่กังวล บอกก็แค่กระเป๋าซ้ายเข้ากระเป๋าขวา โฆษกกลาโหมแจงเช่าเหมาลำเป็นราคามาตรฐาน ชี้มีความจำเป็น เหตุไม่มีบินตรง ระบุประชุมเสร็จกลับทันที ไม่มีเที่ยวต่อ เพจดังตั้งคำถาม “พอเพียง” หลังใช้งบมากกว่ายุค “ปู” ด้าน “ศรีสุวรรณ” ร้องสตง. ตรวจสอบแพงไปหรือไม่ มึนงบอาหาร 6 แสน เสิร์ฟอะไรให้กิน

 

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เปิดเผยถึงกรณีกระแสวิพากษ์วิจารณ์การใช้เงินงบประมาณในการจ้างขนส่งคนทางอากาศโดยเครื่องบินพาณิชย์ของสายการบินไทยเพื่อไปปฏิบัติภารกิจที่มลรัฐฮาวาย ประเทศสหรัฐฯ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ระหว่างวันที่ 29 ก.ย.-2 ต.ค.2559 รวมค่าใช้จ่ายกว่า 20 ล้านบาท ว่า ปัญหาทุกวันนี้ทุกเรื่องมันโยงกันทั้งหมด ส่วนข้อวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น ถ้าอยากจะตรวจสอบ ก็ขอให้ไปตรวจสอบมา เขาชี้แจงได้ก็ชี้แจง ไปดูด้วยว่าเขาทำอะไรกันอย่างไร รายละเอียดก็มีการชี้แจงมาแล้วไม่ใช่หรือ

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า ไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสอบสวนใช่หรือไม่ พล.อ. ประยุทธ์กล่าวด้วยน้ำเสียงเบื่อหน่าย ว่า “โฮ้ย จะไปตั้งด้วยอะไร ทำไมถึงต้องตั้ง”

 

ผู้สื่อข่าวระบุว่าจะได้ความชัดเจนและข้อเท็จจริง พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า เรื่องนี้ก็เป็นการทำงานของระบบอยู่แล้ว ผมถามว่า 1. การไปประชุมเครื่องบินมีบินตรงหรือไม่ ไม่มีใช่มั้ย จริงๆ แล้วขี้เกียจตอบแทน ไปฟังเขาตอบ ก็แล้วกัน 2. เขาไปทำประโยชน์หรือเขาไปเที่ยว การไปประชุมก็ต้องดูว่ามีกี่การประชุม ไปคนเดียวพออย่างนั้นหรือ การไปประชุมที่ต่างประเทศจะต้องมีหลายคณะ ก่อนที่ระดับผู้ใหญ่จะประชุมก็จะมีระดับล่างเขาประชุมก่อน อย่ามาจับผิดจับถูกในเรื่องเหล่านี้ ใครอยากฟ้องร้องก็ไปฟ้องร้องเอา ผมไม่ได้อารมณ์เสียอะไรทั้งสิ้น แต่อย่าเอาปัญหาเหล่านี้มาถาม อยากฟ้องก็ให้ฟ้องมา ไม่ใช่อยู่ดีๆ นายกฯ จะไปฟ้องเรื่องนี้ ตรวจสอบเรื่องนั้น มันมีหน่วยงานที่ทำหน้าที่อยู่แล้ว ก็ทำหน้าที่กันมาในทุกๆ เรื่อง ผมเองก็กำลังทำหน้าที่อย่างอื่นอยู่ หน้าที่การตรวจสอบการทุจริตไม่ใช่ไม่ทำ เราทำอยู่ แต่ก็มีกลไก เขาต้องทำขึ้นมาตามขั้นตอน จากนั้นผมก็ทำให้ ยุ่งมา 3 วันแล้วไอ้เรื่องนี้

 

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า ไม่เป็นไร ตนได้ให้ พล.ต.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงไปหมดแล้วว่า การไปฮาวายครั้งนี้ เนื่องจากไม่มีสายการบินของไทยที่จะไป และมันต้องไปต่อเครื่อง หลายต่อ อาจทำให้เสียเวลา เนื่องจากไปเพียงแค่ 3 วัน ถือเป็นช่วงระยะเวลาสั้นๆ เท่านั้น จึงมีการพูดคุยกับสายการบินไทยว่าจะเดินทางอย่างไรได้บ้าง ซึ่งทางการบินไทยก็ส่งรายละเอียดมาว่าสามารถเดินทางไปได้ พร้อมเสนอราคา มาด้วย

 

สายการบินไทยเขาไม่ได้เก็บราคาเต็ม ซึ่งเหมือนกับเป็นการช่วยการบินไทยด้วย คล้ายๆ กับเข้ากระเป๋าซ้าย ออกกระเป๋าขวา เป็นของราชการ ก็ถือว่าช่วยราชการด้วยกัน ดีกว่าไปช่วยคนอื่น ก็ไม่เห็นมีอะไร” รองนายกฯ กล่าว

 

พล.อ.ประวิตรกล่าวด้วยว่าการไปครั้งนี้ ทางสหรัฐฯ อยากให้เราไปกันหลายๆ คนเพื่อหารือหลายประเด็น เช่น เรื่องการก่อการร้าย อาชญากรรมข้ามชาติ กลุ่มไอซิส และเรื่องความมั่นคงทางทะเลส่วนของทะเลจีนใต้ เขาก็ขอร้องมาว่าให้ไปกันทุกหน่วยงาน ก็แค่นั้นเอง ยืนยันว่าไปราชการ ไม่ใช่ไปเที่ยว ซึ่งก็ได้รับคำชื่นชมจากทางสหรัฐด้วยโดยเฉพาะการแก้ปัญหา การค้ามนุษย์ การแก้ปัญหาประมงผิดกฎหมาย (ไอยูยู) ซึ่งทางสหรัฐฯ มีความชื่นชมและพร้อมสนับสนุนประเทศไทย อีกทั้งยังยกให้ไทยเป็นตัวอย่างในการแก้ปัญหาเรื่องนี้ด้วย ขณะที่ประเทศมาเลเซีย ก็มาพูดกับตนว่าอยากแก้ปัญหาการค้ามนุษย์ได้เหมือนกับเรา ซึ่งเรื่องนี้อาจจะทำได้ยาก แต่เราก็ทำได้

 

ผู้สื่อข่าวถามว่า แปลกใจหรือไม่ที่มีคนหยิบยกประเด็นนี้ขึ้นมา พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า ไม่เป็นไร เขาทำถูกต้อง เพราะถือเป็นเรื่องความโปร่งใสและไม่แปลกใจที่เขาจะหยิบเรื่องนี้ขึ้นมาเป็นประเด็น เพราะเรื่องการใช้เงิน เนื่องจากเป็นเงินของประชาชน จะใช้อะไรก็ต้องมีการชี้แจงให้ชัดเจน แต่ยืนยันว่าไม่ได้ใช้ทั้งหมด

 

เมื่อถามว่า กระแสวิพากษ์วิจารณ์ครั้งนี้เป็นการสะท้อนว่าตกเป็นหนึ่งในเป้าการ ตรวจสอบหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่สะท้อน ความจริงเขาตั้งใจจะเล่นงามผม แต่ขอให้เข้าใจว่า ผมไม่มีผลประโยชน์กับเงินสักบาท ไม่ได้รับเงินอะไรมาทั้งนั้น เป็นเรื่องของหน่วยงานกับหน่วยงานที่ว่ากันไป

 

ที่กระทรวงกลาโหม พล.ต.คงชีพ ตัณตระวาณิช โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเพิ่มเติมว่า อัตราค่าโดยสารเช่าเหมาลำ เป็นราคามาตรฐานที่กำหนดราคากลางลงไป เมื่อประกาศไปแล้ว ใครก็ตามที่ไปเช่าเหมาลำและบินไป จุดหมายดังกล่าว ก็ต้องใช้ราคานี้ทั้งหมด ซึ่งเขาต้องคิดราคาทั้งลำที่สามารถบรรจุผู้โดยสาร ไปได้ว่ามีค่าอาหารเท่าไร ไม่ใช่เครื่องบินมี 100 ที่นั่ง แต่คิดแค่ 30 ที่นั่ง คงไม่ใช่ ต้องคิดเต็ม 100 ที่นั่ง และยังมีกรณีการเติมน้ำมันที่มลรัฐฮาวาย เติมด้วยอัตราแลกเปลี่ยนเท่าไร สูงหรือต่ำ รวมถึงค่าน้ำมันในตอนนั้น จะมีรายละเอียดออกมาว่าใช้เงินเท่าไร

 

ส่วนประเด็นการเช่าเหมาลำ เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินจากกรุงเทพฯ ไม่เหมือนกรณี นายกรัฐมนตรีไปปฏิบัติภารกิจต่างประเทศ เพราะมีเที่ยวบิน แต่ครั้งนี้เป็นมลรัฐฮาวาย เป็นเกาะอยู่กลางทะเล หากไปเที่ยวบินอื่น ต้องต่อเครื่อง ใช้เวลาเดินทางเพิ่ม กำหนดตารางเวลาชัดเจนไม่ได้ อาจไปประชุมไม่ทัน และเมื่อไปประชุมเสร็จแล้ว ก็เดินทางกลับทันที

 

อยากฝากไปถึงบุคคลที่พยายามนำเรื่องดังกล่าวมาเป็นประเด็น ไม่อยากให้มองใน ด้านลบ เนื่องจากเป็นการปฏิบัติตามระเบียบข้าราชการและข้อบังคับของ ป.ป.ช.อยู่แล้ว และเอกสารดังกล่าว ไม่ใช่เอกสารลับ ซึ่งประกาศอยู่ในเว็บไซต์กรมบัญชีกลาง ไม่ว่าจะจัดซื้อ จัดจ้าง ทำถนน ต้องลงรายละเอียดในกรมบัญชีกลาง รวมถึงในหน่วยงานตัวเองทั้งหมด ซึ่งเป็นมิติใหม่การบริหารงานของรัฐบาลปัจจุบันและเป็นไปตามข้อบังคับของ ป.ป.ช.ที่ต้องเผยแพร่ให้สาธารณชนได้รับทราบ ส่วนที่มีการเจาะจงเฉพาะ คณะ พล.อ.ประวิตร นั้น มีทั้งคนรักและคนชังถือเป็นเรื่องธรรมดา” พล.ต.คงชีพกล่าว

 

วันเดียวกันนี้ เพจดังอย่าง CSI LA ได้ตั้งคำถามว่า “พอเพียง? เครื่องบินสายการบิน ไทยเที่ยวบิน TG8886 เป็นเครื่องบินรุ่น Boeing 747-400 ขนาดจัมโบเจ็ตลำใหญ่ สามารถจุ ผู้โดยสารนั่งได้ถึง 416 คน อยากทราบว่า พวกท่านผู้มีอำนาจมีความจำเป็นอะไรที่ต้องเหมาไปทั้งเครื่องเพื่อคนแค่ 38 คน? มันพอเพียงแล้วหรือ”

 

นอกจากนี้ เพจดังกล่าว ยังได้มีการแชร์ข้อมูลเก่าจากเพจ “สายตรงภาคสนาม” เปรียบเทียบข้อมูลการเดินทางไปต่างประเทศของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ช่วงที่เป็นนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปสวิตเซอร์แลนด์ อิตาลี และมอนเตเนโกร วันที่ 8-15 ก.ย.2556 และใช้วิธีเช่าเครื่องการบินไทยแบบเหมาลำ มีค่าใช้จ่ายในการเดินทางรวม 21.8 ล้านบาท มีผู้โดยสารรวม 81 คน ซึ่งแอดมินเพจระบุว่า คิดว่าตอนนั้นน.ส.ยิ่งลักษณ์ใช้เงินเยอะแล้ว บินไป 81 คน ใช้เงินเกือบ 22 ล้านบาท แต่วันนี้ ค่าเครื่องบิน รองนายกฯ สูงถึง 20 ล้านบาท ทั้งๆ ที่ไปแค่ฮาวายไม่ได้ไกลเหมือนยุโรป และบินแค่ 38 คน

 

ด้านนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตอนเป็นรอง นายกฯ และรมว.ต่างประเทศ เคยเดินทางไปประชุมต่างประเทศแทน น.ส.ยิ่งลักษณ์ ด้วยสายการบินพาณิชย์ทั่วไป โดยที่ฮาวายก็เคยไปประชุมเอเปก เจ้าหน้าที่ ปลัดกระทรวงและข้าราชการกระทรวงการต่างประเทศ ก็จะเดินทางโดยเครื่องบินพาณิชย์ตามปกติ ใช้เงินไปไม่กี่บาท ไม่น่าจะถึง 2 ล้านบาท ทั้งๆ ที่เศรษฐกิจของไทยตอนนั้นดีกว่าตอนนี้มาก แต่ตอนนี้ รัฐบาล คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) และคณะรองนายกฯ กลับใช้เงินในการเดินทางไปประชุมสูงลิ่ว แค่ 2-3 วัน หมดไป 20 กว่าล้านบาท

 

ขณะที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญ กล่าวว่า เป็นหน้าที่ของทางผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ที่จะดำเนินการตรวจสอบความโปร่งใสว่ามีการใช้จ่ายแพงกว่ามาตรฐานการเดินทางไปดูงาน ต่างประเทศของ ครม.ที่ผ่านมาหรือไม่ อีกทั้งค่าอาหารของคณะผู้เดินทางทั้ง 38 คน ที่มากถึง 600,000 บาท ทำไมแพงเกินเหตุ สตง.ควร ดำเนินการตรวจสอบเพื่อความโปร่งใส และอธิบายสังคมได้ ทั้งนี้ ตนจะรอดูท่าทีจาก สตง.ก่อน หากไม่มีการตรวจสอบ ตนก็จะไปยื่นคำร้องด้วยตนเอง.