บิ๊กตู่ชี้ศานิตย์รับจ๊อบช้างเรื่องส่วนตัว

หัวข้อข่าว: บิ๊กตู่ชี้ศานิตย์รับจ๊อบช้างเรื่องส่วนตัว

ที่มา: ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2559

 

ทำเนียบฯ * พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณี พล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล รับเงินเดือนในฐานะเป็นที่ปรึกษาบริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ว่า เงินเดือนที่ปรึกษาถือเป็นเรื่องส่วนตัว คงไม่มีความคิดเห็นว่าเหมาะสมหรือไม่เพราะท่านรู้คำตอบอยู่แล้ว แต่ในทางกฎหมายจะทำได้หรือไม่ก็ต้องทำตามกระบวนการ
ด้านนายสรรเสริญ พลเจียก เลขาธิ การคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กล่าวถึงกรณีนาย ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทยยื่นเรื่องต่อคณะกรรม การ ป.ป.ช.ให้ไต่สวน พล.ต.ท.ศานิตย์ ซึ่งอาจเข้าข่ายเป็นการกระทำความผิดตามมาตรา 103 ของ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 ว่า เมื่อมีผู้ยื่นเข้ามา ป.ป.ช.จะสรุปรายละเอียดทั้งหมดว่ามีความผิดเพียงพอ
ตามที่ผู้ร้องเรียนได้ร้องมาหรือไม่ และต้องพิจาร ณาว่าการเป็นที่ปรึกษามีข้อยกเว้นหรือไม่
“หากไม่มีข้อยกเว้น ป.ป.ช.จะต้องดำ เนินการตามข้อกฎหมาย โดยเฉพาะฐานความผิดตามมาตรา 103 ที่ห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่รัฐผู้ใดรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดจากบุคคล นอกเหนือจากทรัพย์สินหรือประโยชน์อันควรได้ตามกฎหมาย เว้นแต่การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยาตามหลักเกณฑ์ จำนวนที่ ป.ป.ช.กำหนด ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ป.ป.ช. ไม่เคยดำเนินการไต่สวนกรณีที่เป็นค่าที่ปรึก ษามาก่อน ส่วนใหญ่เรื่องร้องเรียนที่ได้รับจะมี เฉพาะการรับทรัพย์สินโดยตรง ดังนั้น ป.ป.ช. ต้องพิจารณารายละเอียดทั้งข้อกฎหมายและข้อห้ามทางจริยธรรมก่อน” เลขาธิการ ป.ป.ช.ระบุ
นายสรรเสริญยังกล่าวถึงความคืบหน้า ในการแสวงหาข้อเท็จจริง กรณี หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ของนายปฐมพล จันทร์โอชา บุตรชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม และอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 รับงานจากกองทัพภาคที่ 3 จำนวน 7 โครงการ รวมเป็นเงิน 97 ล้านบาท และรับงานจากหน่วยงานรัฐอีก 2 โครงการ รวมมูลค่า 155 ล้านบาทว่าเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ พ.ศ.2542 หรือไม่ว่า กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นที่ จ.พิษณุโลก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ของ ป.ป.ช.กำลังสอบหาข้อเท็จจริงอยู่และได้ลงพื้นที่กองทัพภาคที่ 3 เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานทั้งเอกสารและพยานบุคคลแล้ว.