หัวข้อข่าว: รวบ2คนสนิทผู้นำโสมใต้ข้อหาคอร์รัปชั่น
ที่มา: เดลินิวส์ ฉบับวันที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ศาลแขวงกรุงโซลกลางอนุมัติคำร้องของอัยการในการออกหมายจับนายอัน จอง-บอม อดีตที่ปรึกษาอาวุโสประจำทำเนียบประธานาธิบดีหรือบลูเฮาส์ และยังเป็นเพื่อนสนิทของประธานาธิบดีปาร์ค กึน-เฮ ผู้นำประเทศคนปัจจุบัน ในข้อหาใช้อำนาจโดยมิชอบและพยายามข่มขู่กรรโชกเพื่อประสงค์ต่อทรัพย์ หลังพนักงานสืบสวนใช้อำนาจตามกฎหมายในการควบคุมตัวนายอัน วัย 57 ปี ตั้งแต่เมื่อวันพุธที่ผ่านมา
อัยการเชื่อว่า นายอันเป็นหนึ่งในเครือข่ายของนางชเว ซุน-ซิล เพื่อนสนิทยาวนานของผู้นำเกาหลีใต้ซึ่งถูกจับกุมเมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาและถูกดำเนินคดีในข้อหาแทรกแซงงานบริหารราชการแผ่นดินและฉ้อโกงทรัพย์ และนายอันใช้อำนาจทางการเมืองในฐานะเจ้าหน้าที่ระดับสูงของ บลูเฮาส์ กดดันให้บริษัทหลายแห่งในเกาหลีใต้บริจาคเงินรวมกันเกือบ 80,000 ล้านวอน (ราว 2,450 ล้านบาท) เข้าสู่องค์กรไม่แสวงผลกำไร 2 แห่งที่นางชเวเป็นผู้ก่อตั้ง และเพื่อให้นางชเวตักตวงหรือโยกย้ายผลประโยชน์จากกองทุนต่อไป
นอกจากนี้ ศาลยังอนุมัติหมายจับอีกฉบับต่อนายจอง โฮ-ซอง อดีตเลขาธิการด้านกิจการประธานาธิบดีของบลูเฮาส์ ในข้อหาแพร่งพรายความลับทางราชการต่อนางชเว ทั้งนี้ นายอันและนายจองลาออกจากตำแหน่งพร้อมกันเมื่อวันที่ 30 ต.ค. ที่ผ่านมา
ความคืบหน้าดังกล่าวในการสืบสวนสอบสวนของอัยการมีขึ้นเพียง 1 วันหลังประชาชนมากกว่า 100,000 คนชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่เต็มพื้นที่ใจกลางกรุงโซล เรียกร้องให้ น.ส.ปาร์ค วัย 64 ปี ลาออกจากตำแหน่งประธานาธิบดีและเข้ารับการไต่สวนตามกฎหมายจากกรณีอื้อฉาวครั้งนี้ ซึ่งหากเธอลาออกจะถือเป็นผู้นำเกาหลีใต้คนแรกในประวัติศาสตร์ที่ไม่สามารถอยู่ครบวาระ 5 ปีได้ โดย น.ส.ปาร์ครับตำแหน่งเมื่อเดือน ก.พ. 2556
สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้คะแนนนิยมของเธอร่วงลงเหลือเพียง 5% ต่ำที่สุดในบรรดาประธานาธิบดีเกาหลีใต้ทุกคนที่ผ่านมา แม้เธอแก้ไขสถานการณ์ด้วยการออกมาขอโทษถึง 2 ครั้ง เสนอตัวเข้ารับการสอบสวนจากอัยการ และปลดเจ้าหน้าที่ระดับสูงในทำเนียบและคณะรัฐมนตรีออกจากตำแหน่งไปแล้วราว 10 คน รวมถึงนายกรัฐมนตรีและ รมว.การคลัง แต่สถานการณ์กลับยิ่งแย่ลง.