หัวข้อข่าว วัชระบี้ฟันบอร์ดSME’สาลินี‘ช่วยน้องแม้วโกง
ที่มา; ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559
ผู้จัดการรายวัน360 – “วัชระ” เตรียมจี้ “ประยุทธ์” เอาผิด ทางอาญาบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ชุดสาลินี ฐานช่วยเหลือ “น้องทักษิณ” โกงเจ้าหนี้
นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.ระบบบัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์เรียกร้องให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช.ดำเนินการกับบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ ชุดนางสาลินี วังตาล กรณีอนุมัติขายลูกหนี้กองหนี้ภาคตะวันออก จำนวน 30 ราย มูลหนี้ 694 ล้านบาท ให้กับบริษัทบริหารสินทรัพย์ ศรีสวัสดิ์ จำกัด ในราคา 210.75 ล้านบาท เมื่อต้นปี 2558 โดยหนึ่งในนั้น คือบริษัทชินวัตร ไทย จำกัด ของนายพายัพ ชินวัตร น้องชายนายทักษิณ ชินวัตร โดยขายไปเพียง 10 ล้านบาท ขณะที่มียอดหนี้เกือบ 100 ล้านบาท และมีการ ใช้หลักประกันเป็นที่ดิน โรงงาน และเครื่องจักร ซึ่งในขณะนั้น ปี 2545 ประเมินราคาไว้กว่า 93 ล้านบาท แต่ราคาลดลงเหลือ 15.5 ล้านบาท เมื่อประเมินราคาใหม่ก่อนขายลูกหนี้ เพราะทั้งโรงงานและเครื่องจักร ถูกรื้อถอนและขนย้ายออกเหลือแต่ที่ดินว่างเปล่า
นายวัชระ กล่าวว่า การปล่อยสินเชื่อให้กับบริษัทของนายพายัพ เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมายเพราะอนุมัติสินเชื่อในขณะที่นายพายัพ ถูกฟ้องล้มละลายแล้ว โดยต่อมาศาลพิพากษาให้ล้มละลายในปี 2553 ในขณะที่ยังมีภาระหนี้เงินต้นอยู่กับ เอสเอ็มอีแบงก์ 34 ล้านบาท หลังจากประมูลขายลูกหนี้รายนี้ไปอย่าง เร่งรีบ ในราคาเพียงสิบล้านบาท นางสาลินี ยังได้เดินทางไปพบกับ นายทักษิณ ซึ่งเป็นพี่ชายของนายพายัพ บริษัทลูกหนี้และถ่ายภาพ ร่วมกัน เมื่อวันที่ 9 พ.ค. 59
การกระทำเช่นนี้แสดงให้เห็นว่าบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ ที่มีนางสาลินี เป็นประธาน เจตนาปกปิดการ อนุมัติสินเชื่อโดยผิดหลักเกณฑ์ในสมัยนายทักษิณ และมีการช่วยเหลือนายพายัพ โดยไม่ดำเนินคดีอาญา ฐานโกงเจ้าหนี้จากการลักลอบรื้อถอนหลักประกันออกไป ซึ่งเกิดขึ้นใน สมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เมื่อบอร์ดชุดนางสาลินี เข้าทำงานก็มี การเร่งรัดให้มีการขายอย่างรวดเร็ว ในราคาเพียงสิบล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าเงินต้น และดอกเบี้ยในขณะที่ขายมีอยู่เกือบ 100 ล้านบาท
“การกระทำของบอร์ดชุด นางสาลินี้ เข้าข่ายละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความ เสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด อันเป็น ความผิดตามมาตรา 11 แห่ง พ.ร.บ. ว่าด้วยความผิดของพนักงานในองค์การหรือหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. 2502 ซึ่งผมจะยื่นหนังสือ ถึง พล.อ.ประยุทธ์ และ นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงษ์ รมว.คลัง เพื่อพิจารณาความผิดของบอร์ดเอสเอ็มอีแบงก์ ชุดนี้ รวมถึงขอให้ดำเนินคดีกับ นายพายัพด้วย” นายวัชระกล่าว
นายวัชระ ยังกล่าวถึงความ คืบหน้าในการติดตามกรณี กทม. ห้ามพ่อค้าแม่ค้าหาบเร่ แผงลอย ขายของในจุดผ่อนผัน ว่า หลังจากที่ได้มีการประสานกับ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง รักษาการผู้ว่าฯ กทม. มีการขยายเวลาจากเดิมกำหนด ห้ามตั้งแต่วันที่ 3 ต.ค.มาเป็นวันที่ 7 ธ.ค. เพื่อให้พ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายในจุดผ่อนผันต่อไป แต่สำนักงานเขตหนองแขม โดยเทศกิจปฏิบัติหน้าที่เกินคำสั่ง ให้พ่อค้าแม่ค้าจำหน่ายได้เพียงเทศกาลกินเจเท่านั้น ถือว่าสำนักงานเขตหนองแขมใหญ่กว่าพล.ต.อ.อัศวิน หรืออย่างไร
“เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะเป็นปัญหาปากท้องของประชาชน ถ้านายวัลลภ สุวรรณดี ประธานที่ปรึกษาผู้ว่าฯ กทม. ดำเนินการเรื่องนี้เกินกว่าที่ คสช.สั่งการ ก็จะเป็นการสร้างความขัดแย้งกับประชาชนโดยใช่เหตุ ขอเรียกร้อง ให้นายวัลลภ และคณะที่ปรึกษา ลาออกทั้งคณะ เนื่องจากผู้ว่าฯ กทม.ที่แต่งตั้งที่ปรึกษาชุดนี้ได้ถูกพักราชการโดยคำสั่งหัวหน้า คสช.ไปแล้ว และอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ เห็นใจพ่อค้าแม่ค้า รวมทั้งระวังอย่าให้ใครเอาชื่อไปรีดไถประชาชนที่ทำมาหากินโดยสุจริต” นายวัชระกล่าว.