สอบโกงมันจีทูจีเก๊53ราย’ยรรยง-เสี่ยเปี๋ยง’โดนอีก

หัวข้อข่าว: สอบโกงมันจีทูจีเก๊53รายยรรยง-เสี่ยเปี๋ยงโดนอีก

ที่มา: ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

 

ไทยโพสต์ * “ต๊อก” เรียกหน่วยงานเกี่ยว ข้องประชุม เพื่อหาบุคคลที่ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายรับจำนำข้าวอีก 80 เปอร์เซ็นต์ เผยมีผู้ต้องรับผิด 3 กลุ่ม คาด 15 พ.ย.ได้ข้อยุติ ขณะที่ “ปปช.” สอบกรณีโกงระบายมันจีทูจีเก๊เพิ่ม 53 ราย “ยรรยง-เสี่ยเปี๋ยง” เข้าข่ายอีกแล้ว ด้านเพื่อไทยสงสัยเป็นโรคประสาทกันยกพรรค “อ้วน” อ้างคนในพรรคโดนหลายคดีเพราะกระบวนการยุติธรรมผิดปกติ!

 

เมื่อวันจันทร์ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ในฐานะ ประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริต แห่งชาติ (ศอตช.) เผยภายหลังการประชุม ศอตช.เพื่อตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องร่วมรับผิดชอบความเสียหายในทางละเมิดโครง การรับจำนำข้าวอีก 80% ว่า ที่ประชุมได้วางแนวทางโดยแบ่งกลุ่มผู้รับผิดชอบเป็น 3 กลุ่ม ประกอบด้วย 1.กลุ่มรัฐมนตรีและ คณะกรรมการนโยบายข้าวแห่งชาติ (กขช.) 2.กลุ่มข้าราชการในกระทรวงที่มีหน้าที่ รับผิดชอบ เช่น กระทรวงพาณิชย์และกระ ทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ 3.ผู้ประกอบการเอกชน นอกจากนี้ ที่ประชุมยังมีมติตั้งคณะกรรมการ 2 ชุด เพื่อทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลและสืบสวนข้อมูลเชิงลึกเพื่อให้ข้อมูลครบถ้วน

 

พล.อ.ไพบูลย์กล่าวว่า อย่างไรก็ตามคาดว่าภายในวันที่ 15 พ.ย.นี้จะได้ข้อยุติจากข้อมูลที่รวบรวมได้ทั้งหมด ซึ่งจะทำให้สามารถเห็นรายชื่อบุคคลและหน่วยงานที่ต้องร่วมรับผิดชอบ โดยเชื่อว่าแต่ละหน่วยงานมีฐานข้อมูลที่รวบรวมไว้อยู่แล้ว ดังนั้นตัวเลขความเสียหาย 80% ก็น่าจะสามารถเห็นภาพได้ เพราะก่อนหน้านี้ก็มีการระบุตัวเลขฟ้องเรียกค่าเสียหายทางละเมิด 20% ไปแล้ว โดยในวันที่ 2 พ.ย.นี้  คณะกรรมการระดับปฏิบัติการจะนำข้อมูลเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องซึ่งมีพฤติการณ์เชื่อมโยงมาตรวจสอบร่วมกัน ทั้งนี้ ในส่วนของผู้ประกอบการเอกชนอาจจำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการหาข้อมูลเพิ่มเติม เนื่องจากมีเอกชนจำนวนมากเข้าไปเกี่ยวข้องในหลายส่วน

 

วันเดียวกันมีรายงานว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)  แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนกรณีกล่าวหานายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์, นพ.วีระวุฒิ วัจนะพุกกะ อดีตเลขานุการ รมว.พาณิชย์ กับพวกรวม 31 ราย กรณีซื้อขายมันสำปะหลัง (มันเส้น) ในรูปแบบสัญญาการซื้อขายแบบรัฐต่อรัฐ (จีทูจี) โดยมิชอบ โดยพบพฤติการณ์เบื้องต้นว่า มันสำปะหลังดังกล่าวขายในราคาที่เป็นมิตรไมตรี แต่เอกชนที่มาซื้อไม่ได้เป็นผู้รับมอบอำนาจจากรัฐบาลจีนจริง แต่มีการผ่องถ่ายให้บริษัทในไทย จากการตรวจสอบพบว่ามีแคชเชียร์เช็คกว่า 2 พันใบที่ใช้ในการซื้อขายนั้น ขณะนี้คณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงได้เพิ่มชื่อผู้ถูกกล่าวหาขึ้นอีกทั้งหมด 53 ราย

 

ประกอบด้วยอดีตข้าราชการและกลุ่มเอกชน แบ่งได้ดังนี้ กลุ่มอดีตข้าราชการ-เจ้าหน้าที่ของรัฐ 3 ราย 1.นายยรรยง พวงราช เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงพาณิชย์ 2.นายคณิต วาสิกานนท์ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง ผอ.กองมาตรฐานสินค้านำเข้าส่งออก กรมการค้าต่างประเทศ 3.พ.ต.ท.ธนิต กรปรีชา  เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองสารวัตร งานสายตรวจ 1 กองกำกับการ 1 กองบังคับการตำรวจจราจร สารวัตรศูนย์ฝึกอบรม กองบัญชาการตำรวจนครบาล และสารวัตรกลุ่มงานสัญญา กองกฎหมาย

 

กลุ่มเอกชน 50 ราย ได้แก่ 1.Ms.Zhou Jing 2.Ms.Gong Shaoyan 3.Mr.Xie Mein หรือ Xie Mian  4.Mr.Zhou Guoxiong 5.บริษัท สยามอินดิก้า จำกัด 6.นายอภิชาติ จันทร์สกุลพร หรือเสี่ยเปี๋ยง 7.น.ส.รัตนา แซ่เฮ้ง 8.น.ส.เรืองวัน เลิศสลารักษ์ 9.น.ส.สุธิดา จันทะเอ หรือสุทธิดา ผลดี 10.น.ส.สุนีย์ จันทร์สกุลพร 11.น.ส.อรวรรณ ศรัทธาสกุล หรือนัสลักษณ์ ศศิปัญญเลิศ 12.นายนิมล รักดี 13.น.ส.กรรณิกา เพชรสุวรรณ์ 14.บริษัท ไทเกอร์ดิสทริบิวชั่นแอนด์โลจิสติคส์ จำกัด 15.นายบุญเกียรติ โชควัฒนา 16.นายวิเชียร กันตถาวร 17.น.ส.สุรีย์รัตน์ ปิยะอารีธรรม 18.นางกอบสุข แสงสวัสดิ์ 19.นายวิทยา จีระผานุกร 20.นายธรรมรัตน์ โชควัฒนา 21.นายเวทิต โชควัฒนา 22.น.ส.ปัทมา มหาพรหม 23.นายไพโรจน์  หิรัญวงศ์สว่าง 24.บริษัท กั้วฮั่ว จำกัด

 

25.นายยาน ดิง 26.นายดีเซง ดิง 27.นายจรัล พูลสวัสดิ์ 28.นายธราพงษ์ ตั้งนุศาสน์ 29.บริษัท ยิ่งวัฒนาทาปิโอก้า จำกัด 30.นางรัชนี วีระกุล 31.นางจุไรรัตน์ วีระกุล 32.บริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด 33.นายสมบัติ เฉลิมวุฒินันท์ 34.นายชัย วัฒน์ นิ้มวัฒนา 35.นายพรชัย โตนิติวงศ์ 36.นายวิชัย บุญธนาพิบูลย์ 37.นางกุลภัทรา ปรีชา 38.นายสมศักดิ์ พงศ์มณีรัตน์ 39.นาย สมศักดิ์ ชินศักดิ์ชัย 40.นายสมเกียรติ พันธุ์ นิธิทร 41.นายประหยัด ติ๊บมุ่ง 42.น.ส.พรลภัส วรรณจักร 43.นายวีระชาติ ทุ่งไผ่แหลม 44.นายธีรพงษ์ พิรารักษ์ 45.นายชาญวิทย์ มงคลวัฒนา 46.น.ส.วิไลลักษณ์ ปิติพร สัมฤทธิ์ 47.น.ส.รุ่งรวี สง่าเขียว 48.นางปัญญาทิพย์ ตั้งเกษมวิบูลย์ 49.นางเดือนเพ็ญ แบ๊ะหลี 50.Mr.Kai Feng

 

ทั้งนี้ ทั้งหมดถูกคณะอนุกรรมการไต่ สวนกล่าวหาเพิ่มเติมว่า กระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามประมวลกฎ หมายอาญา หรือกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ หรือทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ตามกฎ หมายอื่น กรณีทุจริตในการซื้อขายมันสำปะ หลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังแบบจีทูจี จำนวน 7 สัญญา ปริมาณ 4,790,000 ตัน มูลค่ารวม 30,642,500,000 บาท

 

อย่างไรก็ตาม ในการเพิ่มเติมผู้ถูกกล่าวหาในชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ พบว่านายอภิชาติ กับเครือข่าย รวมถึงบริษัท สยามอินดิก้า จำกัด ได้ถูกกล่าวหาด้วย ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งหมดเคยถูกชี้มูลความผิดในคดีระบายข้าวแบบจีทูจีไปแล้ว ปัจจุบันอยู่ระหว่างการไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ส่วนบริษัท เอเชียโกลเด้นไรซ์ จำกัด เป็นหนึ่งใน 4 บริษัทที่คณะกรรมการ ป.ป.ช.กันไว้เป็นพยานในคดีระบายข้าวจีทูจี

 

นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กว่า “วันนี้มีนักข่าวโทรมาสัมภาษณ์ อยากได้เรื่องความเหนียวแน่นของพรรคเพื่อไทยเป็นยังไง หลังโดนกันหลายคดี แกนนำยังเหนียวแน่นกันดีไหม ตอบไปว่าพรรคไม่มีปัญหาอะไร การโดนหลายคดีล้วนสะท้อนความผิดปกติของกระบวนการยุติธรรมในสังคมไทย ซึ่งประชาชนไทยและนักการเมืองของพรรค แกนนำพรรคทราบและเข้าใจดี

 

เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ในพรรครักกันมากขึ้น เพราะรู้ดีว่าที่ผ่านมาที่พรรคเราทำงานล้วนพยายามมุ่งแก้ปัญหาให้ประชาชนทั้งสิ้น คนส่วนใหญ่ของพรรคเชื่อว่าประชาชนรักเราและจะไม่ทอดทิ้งเรา ตราบใดที่เรายังยืนยันจุดยืนเดิมของเรา ที่ยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางในการมองปัญหาทุกเรื่อง สมาชิกและนักการเมืองของพรรคจะทิ้งพรรคหรือไม่ให้ดูความนิยมของประชาชนในแต่ละพื้นที่ ถ้าคนส่วนใหญ่ในพื้นที่นั้นยังรักพรรค คิดถึงผู้นำของพรรค คิดถึงนโยบายพรรค จะไม่มีใครกล้าทิ้งพรรค

 

หากจะมีเกิดขึ้นบ้างคงต้องดูความเป็นจริงของสถานการณ์ทางการเมือง และผลการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น หากมีการเลือกตั้งประชาชนจะเป็นผู้ให้คำตอบตอนนี้ยังไม่มีใครเห็นอะไรชัดเจน เมื่อสถานการณ์เปิดโอกาสให้พรรคทำกิจกรรมทางการเมืองได้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่จะปรากฏขึ้นจะเป็นตัวบ่งบอกคำตอบเอง คำตอบอยู่ที่ประชาชน ไม่ใช่อยู่ที่นักการเมือง”.