หัวอัดสนช.เล่นพวกหวังผลประโยชน์ดัน‘สรศักดิ์‘นั่งเลขาฯสภาฯ
ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559
ผู้จัดการรายวัน360 – “วัชระ” อัด สนช.บางคนแทรกแซงตั้งเด็กในคาถา ดัน “สรศักดิ์” เบียด “สุภาสินี” นั่งเลขาฯ สภาฯ คนใหม่ ทั้งที่มีพฤติกรรมอื้อฉาวสารพัด แฉ “พรเพชร” ตั้งเด็กที่ปรึกษาร่วมคณะสรรหาร่วมโหวต ถือว่าผิดธรรมเนียมปฏิบัติจี้ “บิ๊กตู่” จัดการ ฐานทำแม่น้ำ 5 สายเน่า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่จะมีการ คัดเลือกเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรคนใหม่ แทนนางสายทิพย์ เชาวลิตถวิล เลขาสภาฯ ที่กำลังจะเกษียณอายุราชการในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ซึ่งคณะกรรมการสรรหาเลขาฯ สภาฯ ที่มีนายสุรชัย เลี้ยง -บุญเลิศชัย รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) เป็นประธาน ได้มีมติเลือก นายสรศักดิ์ เพียรเวช รองเลขาฯ สภาฯ ดำรงตำแหน่งแทน
ทั้งนี้ ได้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในการคัดเลือกดังกล่าว เนื่องจาก นายสรศักดิ์ อาวุโสน้อยกว่า น.ส.สุภาสินี ขมะสุนทร รองเลขาฯ สภาฯ ดูแลงานด้านต่างประเทศ ซึ่งดำรงตำแหน่งมาแล้ว 2 ปี ขณะที่นายสรศักดิ์ เลื่อนตำแหน่งจากผู้อำนวยการสำนักกฎหมาย สภาฯ มาเป็นรองเลขาฯ ได้เพียง 10 เดือน แต่กลับได้รับการสรรหา ให้เป็นว่าที่เลขาฯ สภาฯ คนใหม่
แหล่งข่าวจาก สนช. กล่าวว่า ในชั้นคณะกรรมการสรรหาเลขาฯ สภาฯ มีผู้สมัครทั้งหมด 6 คน โดยนางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ รองเลขาฯได้ขอสละสิทธิ์ เพื่อจะไปเป็นที่ปรึกษา ซึ่งทำให้ น.ส.สุภาสินี กลายเป็นอาวุโสอันดับ 1 และนายสรศักดิ์ อาวุโสอันดับ 2 ส่วนผู้สมัครคนที่ 4 ถึง 6 ก็อาวุโสรองลงมาตามลำดับ ดังนั้น แคนดิเดต ในการสรรหาครั้งนี้ จึงอยู่ระหว่าง น.ส.สุภาสินี กับ นายสรศักดิ์ ซึ่งในที่สุดคณะกรรมการ สรรหาฯ ได้ลงมติเลือก นายสรศักดิ์
แหล่งข่าวจาก สนช. มองว่า ขณะนี้งานใหญ่ของสภาที่รอการสะสาง มีอยู่ 3 เรื่องคือ งานก่อสร้างรัฐสภาใหม่ งานรับสมาชิกทั้ง ส.ส.-ส.ว. และงานด้านการพิจารณากฎหมาย คณะกรรมการ สรรหา จึงได้คัดเลือกนายสรศักดิ์ โดยยึดหลักความเหมาะสม เพราะมีความเชี่ยวชาญด้านกฎหมาย และดูแลโครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ พร้อมอาคารประกอบอยู่แต่ก่อนแล้ว
อย่างไรก็ตาม ถ้ามีงานเร่งด่วนที่ต้องเร่งทำ ก็ต้องคัดเลือกคนที่สั่งแล้วทำงาน ถ้าสั่งแล้วไม่ทำ ก็จะตายกันหมด โดยเฉพาะงานก่อสร้างรัฐสภา อยู่มาแล้ว 2 ปี ถ้าไม่เสร็จตายแน่ ทั้งนี้ ผลการสรรหาดังกล่าว จะมีผลหรือไม่ขึ้นอยู่กับที่ประชุมคณะกรรมการข้าราชการฝ่ายรัฐสภา (กร.) ที่มี นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธาน สนช. เป็นประธาน กร. โดยคณะกรรมการสรรหาเลขาฯสภาฯ จะมีการเสนอชื่อนายสรศักดิ์ อีกครั้งในวันนี้ (23 ก.ย.)
ด้าน นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า เป็นที่แน่ชัดว่า มีสมาชิก สนช. บางคน กำลังแทรกแซงผลักดันให้ นายสรศักดิ์ มาเป็นเลขาธิการสภาฯ คนใหม่ เนื่องจากทำงานให้ตนเองได้เป็นอย่างดี เป็นที่พึงพอใจของกลุ่มอำนาจและธุรกิจใน สนช. แม้ว่าจะอาวุโสน้อยกว่า ซึ่งคณะกรรมการเลือกสรร ควรพิจารณาอย่างรอบคอบ ยึดหลักคุณธรรมความรู้ความสามารถ และอาวุโส เพื่อให้เห็นว่ายังมีระบบคุณธรรมและธรรมาภิบาลในการแต่งตั้ง ถ้าแต่งตั้งแบบประเภทเข้ามาสนองผลประโยชน์ของตนเอง ในการทำธุรกิจการก่อสร้างรัฐสภาแห่งใหม่ 12,000 ล้านบาท หรือหลิ่วตาในโครงการไอที ของรัฐสภาใหม่ อีก 3,000 ล้านบาท ก็จะเป็นปัญหาต่อเนื่องในอนาคตอย่างแน่นอน
“นายสรศักดิ์ คนนี้มิใช่หรือ ที่เป็นผู้อำนวยการสำนักกฎหมายสมัย นายสุวิจักษณ์ นาค วัชระชัย เป็นเลขาธิการสภา แล้วเกิดการทุจริตงบประมาณของสำนักงานเลขาธิการสภาฯ กว่า 300 ล้านบาท ผลสอบการทุจริตผ่านมา 2 ปี ยังไม่เสร็จสักเรื่อง และยังเป็นคนเสนอให้ลดขนาดเหล็ก ในการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ใช่หรือไม่ ใครได้ประโยชน์ ถ้าไม่ใช้เหล็กตามสเปก และนายสรศักดิ์ ใช่หรือไม่ที่สรุปผลการสอบทุจริตโครงการจัดซื้อนาฬิกา 250 เรือน วงเงิน 15 ล้านบาท ว่าไม่ใช่การฮั้ว แล้วทุกวันนี้ทำไมต้องสั่งเก็บทั้งหมด ไม่เว้นแม้แต่ในห้องประธานสภา หากนายพรเพชร วิชิตชลชัย สั่งย้าย นายจเร พันธุ์เปรื่อง อดีตเลขาธิการสภา เพราะควบคุมงานก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ล่าช้า ถ้าใช้มาตรฐานเดียวกันนี้ ก็ต้องสั่งย้ายนายสรศักดิ์ ด้วย เพราะเป็นผู้ควบคุมการก่อสร้างอาคาร รัฐสภาปัจจุบันล่าช้ามาก แถมยังจะต่อขยายเวลาให้บริษัทเอกชนอีก 500 วัน”
นายวัชระ กล่าวว่า การเลือกเลขาธิการสภาฯ ครั้งนี้ มีความแปลกประหลาดกว่าทุกสมัย เพราะนายพรเพชร แต่งตั้ง นางสุวิมล ภูมิสิงหราช สมาชิก สนช. เข้าไปโหวตด้วย ซึ่งธรรมเนียมปฏิบัติเป็นหน้าที่ของประธานรัฐสภา และรองประธานเท่านั้น เพราะเป็นผู้บังคับบัญชาข้าราชการตามกฎหมาย แต่การส่ง นางสุวิมล เข้ามาโหวตด้วย ถือว่าเป็นการผิดธรรมเนียมของรัฐสภา และนางสุวิมล นั้นเป็น สนช. ที่เดินตามหลังนายชัชวาลย์ อภิบาลศรี สนช. ซึ่งเป็นที่ปรึกษาของนายพรเพชร นั่นเอง
“เมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคสช. และนายกรัฐมนตรี ต้องการปฏิรูปประเทศ เปิดโอกาสให้ข้าราชการได้เติบโตตามระบบคุณธรรม การเล่นเส้นเล่นสายและล็อกสเปก ก็ต้องหมดไปจากระบบข้าราชการไทยได้แล้ว และ สนช.ซึ่งทำหน้าที่แทน ส.ส.และ ส.ว. ก็ไม่ควรก้าวก่ายแทรกแซงการแต่งตั้งข้าราชการประจำ อย่าทำให้เจตนารมณ์การปฏิรูปประเทศของ พล.อ.ประยุทธ์ ต้องมัวหมอง และทำให้แม่น้ำ 5 สาย ต้องพลอยเสื่อมเสียไปด้วย” นายวัชระ กล่าว.