หัวข้อข่าว: เงื้อดาบแล้วมีชะงัก?
ที่มา: ไทยรัฐ ฉบับวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559
ในคิวกล่าวถ้อยแถลงของ “บิ๊กตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและหัวหน้า คสช. ในที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติฯที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา ช่วงหนึ่งกล่าวถึงสถานการณ์ในประเทศ
นอกจากยืนยันโรดแม็ปเลือกตั้งปลายปี 2560 โปรแกรมหน้าคัมมิ่งซูน
ยังระบุ รัฐบาลได้เน้นแก้ไขปัญหาความมั่นคง การทุจริต การค้ามนุษย์ และอาชญากรรมต่างๆที่เป็นปัญหาที่เรื้อรัง และแก้ไขปัญหาที่ต้นตอเป็นการวางรากฐานการพัฒนาประชาธิปไตยที่ยั่งยืน
“รวมทั้งการส่งเสริมธรรมาภิบาล”
“บิ๊กตู่” ยังกล่าวถึงการพัฒนาเศรษฐกิจภายใต้แนวคิด “ประเทศไทย 4.0” ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ส่งเสริมการศึกษา การวิจัย พัฒนา ปรับปรุงกฎระเบียบให้เป็นสากล
รวมทั้งขจัดปัญหาคอร์รัปชัน
ตัวแทนอำนาจพิเศษประเทศไทยประกาศยึดหลักธรรมาภิบาล ขจัดคอร์รัปชัน
ไม่วายถูกโฟกัสโยงสถานการณ์ในไทย ห้วงปม “ความไม่โปร่งใส” ในคนใกล้ชิดผู้นำโผล่
เป็นประเด็นร้อนสะเทือนอำนาจพิเศษ
เรื่องเกี่ยวกับคนในครอบครัว “จันทร์โอชา” ในส่วนของ “บิ๊กติ๊ก” พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม จากจุดเริ่มปมเล็กๆ เปิดโพยตั้งชื่อ “ฝายแม่ผ่องพรรณ” ที่เชียงใหม่ โยงชื่อภรรยาของ “บิ๊กติ๊ก”
ขยายวงไปถึงการขอใช้บริการเครื่องบินกองทัพ ขนแม่บ้านท็อปบูตไปงาน และที่สื่อออนไลน์เปิดเอกสารรายละเอียดการประมูลโครงการในกองทัพภาคที่ 3 ของบริษัทลูกชาย “ปลัดติ๊ก”
ลูก-เมียของน้องชาย “บิ๊กตู่” ติดหลายเงี่ยง เส้นสายอำนาจและผลประโยชน์
ล่าสุด นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือถึง ป.ป.ช.ให้ตรวจสอบ “บิ๊กติ๊ก” ไปจนกระทั่งแม่ทัพและอดีตแม่ทัพภาคที่ 3 และข้าราชการที่เกี่ยวข้อง
กรณีใช้อำนาจหน้าที่เอื้อประโยชน์บริษัทบุตรชาย พล.อ.ปรีชาให้ได้รับงานก่อสร้าง
ไฟชักลาม ลำพัง “นายกฯลุงตู่” ต่อสายตรงมาถึงน้องชายให้ระวังตัวก็คง “ดับไฟ” ไม่อยู่ หรือ “บิ๊กป้อม” พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯและ รมว.กลาโหม การันตี ก็ยังล้างประเด็นที่สังคมสงสัย “คาใจ” ไม่ได้
ทั้งหมดทั้งปวง ก็ไม่แน่ใจถึงคิวกลับไทย “บิ๊กตู่” จะช่วยเบรกกระแสกันได้แค่ไหน
เพราะคิวนี้ กระทั่งองค์กรตรวจสอบยังถูกจับจ้องดึงเกมยาวเหนื่อย
แล้วแน่นอน คิวนี้ย่อมสะเทือนไปถึงโจทย์หลัก “ล้างโกง” ของคสช.อย่างมิต้องสงสัย
กระทั่งถึงแม้จะมี “เรื่องใหญ่” ทั้งปมตรวจสอบความเสียหาย ไล่บี้เรียกเฉ่งเจ๊งจำนำข้าวจาก “อดีตนายกฯปู” ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร
ปมระบายข้าวจีทูจีของนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ อดีต รมว.พาณิชย์ พร้อมพวก
กระทั่งล่าสุด นายนรวิชญ์ หล้าแหล่ง ทนาย “อดีตนายกฯปู” ระบุ ป.ป.ช.ยังได้ส่งหนังสือเพื่อแจ้งให้ทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงข้อกล่าวหานางสาวยิ่งลักษณ์และเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง
มีพฤติการณ์ร่วมกันกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำในเหตุมหาอุทกภัยปี 2554 ตามที่นายนรวิชญ์ระบุ เป็นอีก 1 ใน 15 คดีเกี่ยวกับอดีตนายกฯหญิง
ชนักจ่อคิวอื้อ แต่มาเจอปมร้อน “เครือญาติผู้นำ” ทำเอาคิวบี้สะดุดเหมือนกันเช่นเดียวกับกรณี ศาลอาญาสั่งจำคุก 3 ปีไม่รอลงอาญานายแทน เทือกสุบรรณ ลูกชาย “ลุงกำนันสุเทพ เทือกสุบรรณ” และนายบรรเจิด เหล่าปิยะสกุล อดีตเลขาฯนายสุเทพ ในคดีบุกรุกที่เขาแพงกว่า 31 ไร่
โดยศาลอนุญาตให้ประกันตัว หาช่องสู้ปลดชนักต่อ
ตามรูปการณ์น่าจะเป็นสัญญาณต่อเนื่องจากที่ผู้นำประเทศ ให้คดีที่เกี่ยวโยง “นักการเมือง” เข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ถึงขั้นเตรียมเสนอกฎหมาย “เอาผิดโกง 4 ชั่วโคตร”
ตามเป้าหมาย “ล้างทุจริต” จัดระเบียบบ้านเมืองช่วงเปลี่ยนผ่าน
แต่เมื่อคนใกล้ชิด “อำนาจพิเศษ” ถูกลากชื่อเข้าข่าย
“ดาบเชือดโกง” หลายเล่มเงื้อฟันก็คงชะงักไปเหมือนกัน.