หัวข้อข่าว เป็นมาตรการ ‘ยิงตรงเข้ากระเป๋า‘
ที่มา; กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าเศรษฐกิจไตรมาส 3 ปีนี้ ยังขยายตัวได้ดี และทั้งปีนี้น่าจะโตได้ที่ 3.2% โดยที่ไม่จำเป็นต้องมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มช่วงปลายปีนี้
ส่วนมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรที่ผ่านคณะรัฐมนตรีเมื่อวันอังคารที่ผ่านมาว่า เป็นมาตรการที่เข้าไปช่วยเหลือเกษตรกร ไม่ใช่มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ที่ผ่านมา กระทรวงการคลังได้เปิดให้ผู้มีรายได้น้อยลงทะเบียนเพื่อรับสวัสดิการ จึงจัดสวัสดิการให้แก่ผู้มีรายได้น้อย พบว่ามีคนที่มีรายได้ต่ำไม่ถึง 3 หมื่นบาทต่อปี คนเหล่านี้ มีรายได้เพียง 2,000 บาทต่อเดือน ถือว่าต่ำมาก ฉะนั้น จึงมี มาตรการไปช่วยเหลือ
“การเพิ่มรายได้ให้คนจน นั้น เป็นมาตรการยิงตรงเข้ากระเป๋า ไปยังเกษตรกรผู้มีรายได้น้อย ไม่เหมือนโครงการจำนำข้าว หรือ ประกันราคาข้าว ฉะนั้น เรื่องทุจริตไม่มี” สำหรับการส่งออกของไทยที่ยังไม่ฟื้นตัวนั้น เขากล่าวว่า เรื่องการส่งออกไม่ใช่เรื่องที่จะดีขึ้นเร็ววัน ฉะนั้น บางช่วงเราอาจจะเห็นการส่งออกที่ดีขึ้น บางช่วงอาจตกลง ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจโลก ฉะนั้น เราต้องยกระดับสินค้าให้มีจุดแข็ง ไม่ใช่ว่า โลกจะดีหรือร้าย หรือ ค่าเงินเปลี่ยน เราก็ผันแปรตามนั้น
นายสมคิด กล่าวหลัง ตรวจเยี่ยมกระทรวงการคลัง โดยได้ฝากงานระยะ 1 ปี แก่กระทรวงการคลังที่ต้องให้น้ำหนักการดำเนินนโยบายที่เข้ามาปฏิรูปเศรษฐกิจ เพราะเชื่อว่า รัฐบาลจะสามารถประคับประคองเศรษฐกิจไปได้ แต่รัฐบาลมีระยะเวลาเหลือประมาณ 1 ปี ฉะนั้น ก็อยากให้กระทรวงการคลังเร่งปฏิรูปเศรษฐกิจอย่างจริงจัง
“ในโอกาสนี้ ผมได้ขอบคุณข้าราชการกระทรวงการคลังที่ทำงานหนักมาก จะเห็นว่า เรื่องที่ผ่านคณะรัฐมนตรีนั้น มีถึง 1 ใน 3 กระทรวงการคลังยังมีเรื่องที่ต้องทำอีกมาก โดยเฉพาะการปฏิรูปเศรษฐกิจ” ในส่วนของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ซึ่งเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ ก็อยากให้มีการพัฒนาข้อมูลและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ เพื่อรองรับการวางนโยบายเศรษฐกิจในอนาคต
นอกจากนี้ ยังฝากงานกระทรวงการคลังให้ช่วยเสริมนโยบายรัฐบาล อาทิ ในเรื่องของสังคมสูงอายุ ซึ่งขณะนี้ กระทรวงการคลังได้เสนอมาตรการมาดูแล คาดว่า จะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในสัปดาห์หน้าหรือถัดไป