เร่งเอาผิดทุจริตข้าว853คดี

หัวข้อข่าว: เร่งเอาผิดทุจริตข้าว853คดี

ที่มา: โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

 

          พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อเร่งดำเนินการฟ้องร้องความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวที่มีผู้เกี่ยวข้อง ทั้งเจ้าหน้าที่ องค์การตลาดเพื่อการเกษตร (อ.ต.ก.) และองค์การคลังสินค้า (อคส.)

 

          โดยทั้งหมดจำนวน 853 คดี อยู่ในความรับผิดชอบของ ป.ป.ท.อยู่แล้ว” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว

          นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการ ศอตช. กล่าวว่า ภายในสัปดาห์นี้จะเสนอคณะกรรมการ ป.ป.ท. เพื่อตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริง กรณีที่เจ้าหน้าที่ของ อ.ต.ก. อคส. และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เข้าไปเกี่ยวข้องกับการทุจริตรวม 853 สำนวน

 

          หากคณะกรรมการ ป.ป.ท.มีมติให้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนข้อเท็จจริงก็จะตั้งอนุกรรมการแยกเป็นรายคดีจำนวน 853 ชุด ซึ่งเป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดไว้” นายประยงค์ กล่าว

 

          ทั้งนี้ การตั้งอนุกรรมการไต่สวนให้อยู่ในดุลพินิจของกรรมการ ป.ป.ท. โดยอนุกรรมการไต่สวนต้องเร่งดำเนินการ ให้แล้วเสร็จภายใน 6 เดือน และจะ ระดมเจ้าหน้าที่สืบสวนสอบสวนของ ป.ป.ท. ทั้งสำนักงานร่วมเป็นอนุกรรมการเพื่อเร่งรัดคดี

 

          อย่างไรก็ตาม ข้อกังวลเรื่องการ แยกการไต่สวนจะส่งผลให้การทำงาน ล่าช้า ยืนยันว่า เรื่องดังกล่าวมีข้อมูล เบื้องต้นแล้ว อีกทั้งทุกสำนวนคดีมีพฤติการณ์ใกล้เคียงกันและมีช่วงเวลาเกิดเหตุ ไล่เลี่ยกัน การสอบสวนจึงสามารถดำเนินการไปพร้อมๆ กันและประสานข้อมูล ร่วมกันได้

 

          สำหรับการตรวจสอบว่า ใครต้อง ร่วมรับผิดชอบความเสียหายในโครงการรับจำนำข้าวอีก 80% นั้น ศอตช.ต้องรอ มติ ครม.อย่างเป็นการทางการ เพื่อนำมาเป็นจุดตั้งต้นในการสอบสวนหาตัว ผู้เกี่ยวข้อง ซึ่งส่วนหนึ่งที่หลีกเลี่ยงความรับผิดไม่ได้คือ ผู้กระทำผิดใน 853 สำนวน ที่ ป.ป.ท. ขอให้มีการตั้งอนุกรรมการขึ้นไต่สวนความผิด