แกะกล่องพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับแก้ไข คุมเข้มนักวิเคราะห์-ผู้บริหาร/ระมัดระวังให้ข้อมูล

หัวข้อข่าว แกะกล่องพ.ร.บ.หลักทรัพย์ฉบับแก้ไข คุมเข้มนักวิเคราะห์-ผู้บริหาร/ระมัดระวังให้ข้อมูล

ที่มา; ประชาชาติธุรกิจ ฉบับวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2559

 

ก.ล.ต.เผย พ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ฉบับใหม่ ป้องกันการ กระทำที่ไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ ย้ำนักวิเคราะห์-ผู้บริหารต้องกลั่นกรองก่อนให้ข้อมูล

 

นายศักรินทร์ ร่วมรังษี ผู้ช่วยเลขาธิการ สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) กล่าวว่า ปัจจุบันพระราชบัญญัติหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ที่มีการแก้ไข อยู่ ระหว่างการทูลเกล้าฯ หลังจากที่ผ่านมา ได้ผ่านการพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แล้ว

 

ทั้งนี้ แก้ไขร่าง พ.ร.บ.ฉบับดังกล่าว เพื่อปรับปรุงลักษณะการกระทำความผิด และเพิ่มมาตรการในการบังคับใช้กฎหมายให้เกิดประสิทธิภาพ มีความเป็นสากลมาก ยิ่งขึ้น โดยการเสนอแก้ไข พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯที่สำคัญ 2 เรื่อง ได้แก่ 1.การป้องกันการ กระทำอันไม่เป็นธรรมเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ และ 2.มาตรการลงโทษทางแพ่ง และ 3.การแก้ไขกฎหมายเพื่อรองรับการเชื่อมโยงตลาดทุน

 

อย่างไรก็ตาม ในส่วนของการเสนอแก้ไขกฎหมายเรื่องที่ 1 เกี่ยวกับ การป้องกันการกระทำที่ไม่เป็นธรรมนั้น ได้มีการปรับปรุงลักษณะความผิดให้ชัดเจนขึ้นและครอบคลุมการกระทำความผิดในลักษณะต่าง ๆ แบ่งเป็น 4 กลุ่ม ได้แก่

 

กลุ่มที่ 1 ความผิดเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูลที่อาจทำให้เกิดความเสียหายแก่ ผู้ลงทุนและตลาดทุน ครอบคลุมการบอกกล่าวหรือเผยแพร่ข้อมูลเท็จหรือที่จะทำให้เข้าใจผิด รวมถึงการวิเคราะห์หรือคาดการณ์ ที่ใช้ข้อมูลเท็จหรือบิดเบือน ซึ่งจะทำให้ ผู้ให้ข้อมูลหรือความเห็นต่อประชาชนต้องใช้ความระมัดระวังและความรับผิดชอบในการกระทำ

 

กลุ่มที่ 2 ความผิดเกี่ยวกับการเอาเปรียบผู้ลงทุนรายอื่น โดยการใช้ประโยชน์จาก ข้อมูลที่ล่วงรู้มา ซึ่งกฎหมายที่แก้ไขกำหนดให้บุคคลที่รู้หรือครอบครองข้อมูลภายใน ต้องไม่นำข้อมูลไปหาประโยชน์หรือไป เปิดเผยแก่บุคคลอื่น และผู้รับข้อมูลก็ต้องไม่นำไปเปิดเผยต่อบุคคลอื่นต่อ ๆ

 

กลุ่มที่ 3 ความผิดเกี่ยวกับการสร้างราคาหลักทรัพย์ กฎหมายที่แก้ไขแบ่งความผิดเกี่ยวกับการสร้างราคาหลักทรัพย์ออกเป็น 2 ระดับ ได้แก่ 1.การส่งคำสั่งซื้อขาย หลักทรัพย์ที่ทำให้บุคคลทั่วไปเข้าใจผิด เกี่ยวกับราคาหรือปริมาณการซื้อขาย 2.การส่งคำสั่งซื้อขายหลักทรัพย์ในลักษณะ ต่อเนื่องจนทำให้ราคา/ปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ความผิดกลุ่มนี้มักมีการกระทำร่วมกัน เป็นกลุ่ม กฎหมายจึงมีการกำหนดให้การพิสูจน์การกระทำร่วมกันง่ายขึ้น

 

กลุ่มที่ 4 เป็นกฎหมายที่ดูแลความ ต่อเนื่องและความน่าเชื่อถือของการ ซื้อขายหลักทรัพย์ด้วยระบบซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยกำหนดให้การส่งคำสั่งซื้อขายที่อาจจะเป็นเหตุให้ระบบการซื้อขายดังกล่าวสะดุดหรือหยุดชะงักลงเป็นความผิด

 

ในส่วนการคาดการณ์เหตุการณ์ในอนาคตสามารถทำได้ ตราบใดที่การ คาดการณ์นั้นมีข้อมูลที่เป็นจริงรองรับ และไม่ได้บิดเบือนข้อเท็จจริง แม้ในภายหลังผลที่ออกมาจะไม่เป็นอย่างที่คาดการณ์ไว้ ก็อาจไม่เป็นความผิด โดยกฎหมายจะเน้นดูที่เจตนาของผู้ที่กระทำเป็นหลัก”

 

นอกจากนี้ยอมรับว่าหากมีการประกาศใช้กฎหมายนี้อาจกระทบต่อการทำหน้าที่ของนักวิเคราะห์และผู้บริหาร ซึ่งจะต้องกลั่นกรองการให้ข้อมูลภายใต้สมมุติฐานที่เป็นความจริงและเก็บข้อมูลในการทำสมมุติฐานไว้ยืนยันข้อเท็จจริงเมื่อถูกเรียกถามให้ครบถ้วนขึ้น ขณะที่ในส่วนของ ผู้สื่อข่าวในฐานะที่เป็นสื่อกลาง ก็ต้องระมัดระวังในการเผยแพร่ข้อมูลมากยิ่งขึ้น

 

กฎหมายนี้จะเป็นประโยชน์ต่อตลาดทุน ในแง่ความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน เพราะตลาดจะโปร่งใสและผู้ลงทุนจะได้ข้อมูลที่ถูกต้อง รวมถึงการป้องปรามผู้กระทำความผิด มากขึ้น” นายศักรินทร์กล่าว