หัวข้อข่าว: เพื่อไทยจี้บิ๊กตู่ซัดเชฟรอน เอาผิดข้าราชการพัวพัน ทำรัฐสูญเสียหนัก
ที่มา: ข่าวหุ้น ฉบับวันที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
“สุรพงษ์” เรียกร้องนายกฯ เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเรียกเก็บภาษีเชฟรอนที่ต้องสูญเสียกลับคืนให้แก่รัฐ และให้เอาผิดข้าราชการที่เกี่ยวข้อง หลังสตง.ส่งหนังสือถึง 2 ฉบับ
นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล อดีตรมว.ต่างประเทศ แกนนำพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า จากกรณีที่ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ได้มีหนังสือแจ้งไปถึงท่านนายกฯและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรื่องการเรียกเก็บภาษีกรณีการค้าชายฝั่งเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2559 ตามหนังสือ ที่ ตผ 0042/3845 และ ที่ ตผ 0042/3840 ว่า การที่กระทรวงการคลังไม่ได้เรียกเก็บภาษีสรรพสามิตและภาษีมูลค่าเพิ่มในการที่มีการขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงจากท่าเรือของบริษัท สตาร์ ปิโตเลียม จังหวัดระยอง ไปยังแท่นขุดเจาะที่อยู่ห่างจากชายฝั่งเกิน 60 ไมล์ทะเล
โดยถือว่าเป็นการส่งออกไปนอกราชอาณาจักรนั้น และกรมศุลกากรก็ได้เคยตอบข้อหารือไปถึงกรรมการผู้จัดการบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ไปแล้วด้วยนั้น ซึ่งจากการพิจารณาข้อเท็จจริง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจพบและเห็นว่า การขนส่งน้ำมันเชื้อเพลิงไปถึงแท่นขุดเจาะดังกล่าวนั้นไม่ถือว่าเป็นการส่งออกน้ำมันไปนอกราชอาณาจักรแต่อย่างใด แต่ให้ถือว่าเป็นการค้าขายชายฝั่งตามปกติที่จะต้องเสียภาษีอากรตามความเห็นของที่ประชุม 3 ฝ่ายคือ กรมศุลกากร กระทรวงการคลัง กรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กระทรวงพลังงาน และกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ
นอกจากนี้ ยังพบอีกว่า ในเมื่อบริษัท เชฟรอน (ไทย) จำกัด ได้รับสัมปทานการขุดเจาะน้ำมันจากรัฐบาลไทย ก็ย่อมถือว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันในทะเลนี้ตั้งอยู่ในเขตอธิปไตยของไทย จึงถือว่าเป็นพื้นที่ที่อยู่ในราชอาณาจักรไทย ดังนั้นการค้าขายจึงถือว่าเป็นการค้าขายชายฝั่ง ไม่ใช่เป็นการส่งออกที่พึงจะได้รับการยกเว้นภาษีอากรแต่ประการใด และเพื่อเป็นการปกป้องผลประโยชน์ของประเทศชาติในทุกๆ มิติ
ทั้งนี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านการต่างประเทศ ด้านการคลังคือการจัดเก็บเงินภาษีอากรเข้ารัฐ ด้านธรรมาภิบาลคือความซื่อสัตย์สุจริต โปร่งใสของข้าราชการ และด้านหลักนิติรัฐนิติธรรมคือความเท่าเทียมกันทางกฎหมายของประเทศไทย โดยเฉพาะด้านการต่างประเทศนั้น จะมีความอ่อนไหวอย่างมากในเรื่องพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล
ดังนั้น จึงอยากขอเรียกร้องให้รัฐบาลรีบดำเนินการในเรื่องนี้ให้เกิดความชัดเจน ตรงไปตรงมา ไม่มีการเลือกปฏิบัติ และนำเงินภาษีอากรของแผ่นดินกลับคืนสู่คลังหลวงเป็นการด่วนด้วย เรียกความเสียหายของรัฐกลับคืนมา และเอาตัวเจ้าหน้าที่ของรัฐผู้กระทำความผิดมารับโทษชดใช้ความเสียหาย
นายสุรพงษ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า เรื่องนี้นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ทีมงานด้านกฎหมายพรรคเพื่อไทยก็ได้ร้องเรียนไปถึงท่านนายกฯแล้วเมื่อวันที่ 26 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา หวังว่าท่านนายกฯ คงจะไม่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ปกป้องผู้กระทำผิด ท่านควรต้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงและให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเรียกเก็บภาษีที่ต้องสูญไปกลับคืนให้แก่รัฐโดยด่วน และเอาความผิดกับข้าราชการทุกคนที่มีส่วนรู้เห็นเกี่ยวข้องทำให้รัฐสูญเสียรายได้มารับผิดชอบชดใช้ความเสียหายด้วย เพราะเรื่องนี้ได้เกิดขึ้นมาเป็นระยะเวลาพอสมควรแล้ว