หัวข้อข่าว: ล็อกรถเมล์เอ็นจีวี กรมศุลฯสงสัยแจ้งราคาต่ำเกินจริง ด้านเบสท์รินกรุ๊ปขู่ฟ้องโดนกลั่นแกล้ง
ที่มา: โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 6 ธันวาคม พ.ศ. 2559
โพสต์ทูเดย์ – กรมศุลกากรกักรถเมล์ เอ็นจีวี 100 คัน เหตุสำแดงราคานำเข้าต่ำกว่าความเป็นจริง ด้านเบสท์รินกรุ๊ป ยันโดนกลั่นแกล้ง
หลังจากที่รัฐบาลได้สนับสนุนให้องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ลงนามในสัญญาจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 489 คันได้สำเร็จ หลังจากที่ค้างคามาตั้งแต่ปี 2545 เพราะมีข้อครหาในเรื่องความโปร่งใส ล่าสุดรถเมล์เอ็นจีวีล็อตแรกถูกจัดส่งมายังท่าเรือแหลมฉบังแล้ว จำนวน 100 คัน ส่วนที่เหลือจะทยอย ส่งมอบจนครบภายใน 29 ธ.ค.นี้ แต่ปรากฏว่ารถเมล์ล็อตแรกถูกศุลกากรท่าเรือ แหลมฉบังกักไว้ จนอาจทำให้ ขสมก. ไม่สามารถเปิดรถเมล์เที่ยวปฐมฤกษ์ที่นายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีจะโดยสารจากทำเนียบรัฐบาลไปสถานีรถไฟหัวลำโพง ในวันที่ 21 ธ.ค.นี้
แหล่งข่าวจากกรมศุลกากร เปิดเผยว่า รถเมล์เอ็นจีวีที่มีการนำเข้าได้สำแดงราคาต่ำมาก เมื่อเทียบกับฐานราคาที่กรมศุลกากรตรวจสอบจากการซื้อขายรถ ดังกล่าวทั่วไป ทางกรมศุลกากรจึงได้ขอให้ผู้นำเข้าส่งเอกสารเกี่ยวกับราคาสำแดงนำเข้าเพราะสาเหตุใด เจตนาหรือเกิดปัญหาความผิดพลาดด้านอื่น แต่ผู้นำเข้ายังไม่ส่งรายละเอียดมาให้ จึงยังไม่สามารถปล่อยรถดังกล่าว เกรงจะเกิดปัญหาการจัดเก็บภาษีนำเข้าได้
นายเค่อนั่ว หลิน ประธานกรรมการ บริษัท เบสท์ริน กรุ๊ป กล่าวว่า มั่นใจว่ากรมศุลกากรจะอนุญาตปล่อยรถเอ็นจีวีล็อตแรกจำนวน 100 คัน ที่เข้ามาถึงไทยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. หลังไม่สามารถปล่อยรถออกมาจากท่าเรือได้ เนื่องจากติดขัดด้านเอกสารและตรงกับวันหยุด ซึ่งยืนยันว่าไม่ได้มาจากเรื่องการแจ้งราคาซื้อรถที่ต่ำเกินไป แต่เกิดจากทางกรมศุลกากรมีข้อสงสัยด้านเอกสารมาตรฐานเข้ามาจำหน่าย และแนบเอกสารรับรองถิ่นกำเนิด (From D) ซึ่งออกโดยรัฐบาลมาเลเซีย
ทั้งนี้ ได้จัดส่งเอกสารเพิ่มเติมให้เรียบร้อยแล้ว ซึ่งทางกรมศุลกากรได้ขอเอกสาร พิมพ์เขียวการประกอบรถยนต์จากโรงงานที่มาเลเซีย และเอกสารสัญญาสั่งซื้อวัสดุอุปกรณ์ประกอบรถยนต์ ซึ่งเป็นความลับทางธุรกิจไม่สามารถเปิดเผยได้ตามหลักการค้าสากล
“ไม่เข้าใจว่าทำไมการส่งมอบรถ เอ็นจีวีครั้งนี้จึงมีปัญหา ทั้งที่ก่อนหน้านี้บริษัทเคยดำเนินการส่งมอบรถรุ่นนี้พร้อมด้วยเอกสารเหมือนกันทุกฉบับ ก็ไม่เคยเกิดข้อสงสัยจากกรมศุลกากร เป็นไปได้ว่าอาจเกิดจากฝีมือคนบางกลุ่มที่มีส่วนได้เสียกับโครงการดังกล่าว”
นายหลิน กล่าวต่อว่า ความล่าช้าจากปัญหาดังกล่าวยังเป็นเรื่องที่เอกชนพอรับความเสียหายที่เกิดจากค่าใช้จ่าย ค่าที่จอดรถภายในท่าเรือแหลมฉบังได้ แต่หากกรมศุลกากรยังคงยืดเยื้อ การส่งมอบรถไม่เป็นไปตามแผนที่ตกลงกันไว้กับ ขสมก. บริษัทจะเข้าร้องเรียนกระทรวงการคลังและรองนายกรัฐมนตรี เนื่องจากความเสียหายที่เกิดขึ้นไม่ได้สร้างความเสียหายแค่บริษัทผู้จัดหา แต่ยังส่งผลเสียต่อแผนการวางระบบขนส่งของกระทรวงคมนาคม จนในที่สุดประชาชนต้องเสียโอกาสการใช้บริการรถเมล์รุ่นใหม่หลังจากที่รอมานานนับสิบปี
ด้าน ดาโต๊ะ เอมราน บิน กาดีร์ ประธานบริษัท อาร์ แอนด์ เอ คอมเมอเชียล วีฮีเคลส์ เอสดีเอ็น บีเอชดี โรงงานประกอบรถเมล์เอ็นจีวี กล่าวว่า ไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อนเลย ตั้งแต่ทำธุรกิจมาหลายสิบปี ทั้งนี้ได้แจ้งเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้รัฐบาลมาเลเซียรับทราบถึงปัญหาของศุลกากรไทยแล้ว บริษัทของตนได้รับการรับรองจากประเทศทั่วโลกมากกว่า 35 ประเทศ อย่างไรก็ตามพร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับกรมศุลกากรไทยอย่างเต็มที่ เพื่อขจัดความไม่โปร่งใสดังกล่าว