หัวข้อข่าว: ปูดผันเงินบริจาค’ธัมมชโย‘กว่า1.4พันล้านลงทุนเล่นหุ้น
ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ ฉบับวันที่ 7 ธันวาคม พ.ศ. 2559
“ไพสิฐ”ปูดเงินบริจาค “ธัมมชโย” 1.4 พันล้าน ถูกแบ่ง 3 ส่วนทั้ง”เข้าวัด-อยู่ที่พระ-ให้คนนอกเล่นหุ้น” ขณะที่ “อัยการ-ดีเอสไอ” ย้ำเอาผิดคนให้ความช่วยเหลือ “ธัมมชโย” ทุกกรณี ไม่เว้นผู้ปกครองคณะสงฆ์ สำนักพุทธฯ ระบุนัดเจ้าคณะหารืออีกรองสัปดาห์นี้ ชี้ถ้าไม่ได้ประกันตัวต้องพ้นผ้าเหลือง ขณะที่ “จักรทิพย์” ปิดทางประกัน ระบุให้โอกาสแล้วหลายครั้ง พร้อมสนับสนุนเจ้าหน้าที่ 7 กองร้อยร่วมดีเอสไอบุกธรรมกาย เชื่ออดีตเจ้าอาวาสกบดานในวัด
พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงข้อเสนอของวัดพระธรรมกายที่เรียกร้องว่าหากพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย มอบตัวมีเงื่อนไขต้องได้ประกันตัวว่าขณะนี้ การมอบตัวหรือไม่อาจไม่ใช่ประเด็นสำคัญ เพราะคดีของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) อยู่ในชั้นพิจารณาของอัยการที่มีความเห็นสั่งฟ้องต่อศาลแล้ว ดังนั้นการให้ประกันหรือไม่น่าจะเป็นอำนาจของศาล เรื่องดังกล่าวเห็นว่าทนายที่เป็นผู้แนะนำก็น่าจะรู้กฎหมายอยู่แล้วว่าขั้นตอนคดีเป็นอย่างไร คดีของดีเอสไอต่างจากคดีของตำรวจซึ่งยังอยู่ในชั้น พนักงานสอบสวนอำนาจการให้ประกันตัวจึงไม่เหมือนกันและที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่ทำตามกฎหมายอย่างเป็นขั้นตอนทุกครั้ง
อย่างไรก็ตาม หากต้องมีการเข้าจับกุมคาดว่าคงต้องมีการทำความเข้าใจกันตนรู้ว่าทุกคนเป็นห่วงสถานการณ์ แต่คงไม่มีใครยอมให้ใช้กฎหมู่หรือไม่ปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรฐานเดียวกันได้ เจ้าหน้าที่มีหน้าที่ต้องทำให้ดีที่สุดตามขั้นตอนกฎหมาย ไม่ว่า จะเป็นการมอบตัวหรือไม่มอบตัวดีเอสไอก็ได้ประเมินและวางแนวทางไว้ทั้ง 2 แนวทางแล้วว่าต้องทำอย่างไร ส่วนการสับเปลี่ยนตำแหน่งรักษาการเจ้าอาวาสวัดพระธรรมกายวัดก็ต้องอยู่ภายใต้กฎหมาย มีขั้นตอนตามกฎหมายสงฆ์การจะเปลี่ยนแปลงตัวบุคคลใดต้องมีหลักฐาน การที่พระทัตตชีโวอ้างว่ามีการเปลี่ยนแปลงตัวรักษาการเจ้าอาวาสไปมานั้น พูดได้แต่สุดท้ายต้องเป็นไปตามหลักฐาน ที่มีอยู่ ซึ่งพศ.มีคำตอบอยู่แล้วไม่ได้ประกันตัวต้องพ้นผ้าเหลือง
นายพนม ศรศิลป์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการนำตัวพระธัมมชโย มาดำเนินคดีตามกฎหมายว่าได้ขอติดต่อพบกับพระราชภาวจารย์ หรือพระทัตตชีโวแล้ว ซึ่งได้คุยกับเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีว่าจะขอพบเพื่อพูดคุยในช่วงสัปดาห์นี้
เมื่อถามว่าอาจมีการเกี่ยงงอน เนื่องจากทางตำรวจไปแจ้งความดำเนินการคดีในฐานะรักษาการเจ้าอาวาส ที่ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่นำตัวพระลูกวัดคือพระธัมมชโย ส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตามหมายจับ จะเป็นอุปสรรคหรือไม่ นายพนม กล่าวว่า เรื่องนี้ทางเจ้าหน้าที่ก็ห่วงเหมือนกัน และหากเป็นเช่นนั้น ทางเจ้าคณะจังหวัดปทุมธานีคงจะใช้อำนาจการปกครองคณะสงฆ์ ที่จะบังคับใช้กฎหมายทางคณะสงฆ์ บังคับให้ต้องมาพบ ซึ่งเรื่องนี้ยอมรับว่าถ้ามีการมอบตัวแล้วหากไม่ได้รับการประกันตัว ก็ต้องถูกปลดผ้าเหลืองเล็งเอาผิดผู้ปกครองสงฆ์ช่วยธัมมชโย
ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายการสอบสวน 3 สำนักการสอบสวน กล่าวว่ากรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จะมีการประชุมคือ 1.เรื่องของการเตรียมความพร้อม การออกหมายค้นต่างๆ การสอบสวน การส่งตัว 2.เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่ ซึ่งจะต้องดูเรื่องกลุ่มปกครอง ว่ามีการปฏิบัติตามหน้าที่หรือไม่ รวมถึงกลุ่มที่ช่วยเหลือผู้กระทำผิดมีพฤติการณ์เข้าข่ายหรือไม่
ต่อข้อถามว่าถึงกรณีปฏิบัติตามหน้าที่หรือไม่ หมายถึงใคร นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า กลุ่มที่เกี่ยวข้องกับในทางปกครองคณะสงฆ์ คือรักษาการเจ้าอาวาส รวมถึงผู้ปกครองคณะสงฆ์ตามลำดับชั้น และกลุ่มผู้ช่วยเหลือด้วย ก็ต้องมาดูกัน ซึ่งการช่วยเหลือก็ผิดตามกฎหมายอยู่แล้ว และอาจจะต้องรวมถึงผู้ที่จะต้องมีอำนาจตรวจค้น ก็คงต้องคุยกันในชุดพนักงานสอบสวน
ทั้งนี้จะมานั่งไล่กันเลยว่าใคร ไม่ทำตามหน้าที่ในการนำตัวพระธัมมชโยมาให้เจ้าหน้าที่ รวมทั้งหน้าที่ในการให้ความช่วยเหลือแก่ดีเอสไอในการนำตัวพระธัมมชโยออกมา หมายถึงเจ้าคณะใหญ่หนกลางถึงระดับล่าง หากไม่ดำเนินการนำตัวพระธัมมชโยออกมา ก็ต้องรับผิดชอบทางกฎหมายด้วยตำรวจพร้อมสนับสนุนกำลัง7กองร้อย
พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) กล่าวว่าทางตำรวจได้เตรียมกำลังจำนวน 7 กองร้อย ไว้คอยสนับสนุนดีเอสไออยู่แล้ว ซึ่งตนให้ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ดูแลในเรื่องนี้อยู่ และตนมั่นใจว่าพระธัมมชโยยังอยู่ในวัดพระธรรมกาย ยังไม่ได้หลบหนีแน่นอน แต่ไม่ขอเปิดเผยว่า อยู่ในอาการอาพาธหรืออยู่ในลักษณะใด อย่างไรก็ตามมั่นใจว่าคดีนี้จะจบก่อน 3 เดือน ซึ่งถ้าหากมีการจับกุมดำเนินคดี ก็จะไม่มีการให้ประกันตัว เนื่องจากได้ให้โอกาสแล้ว แต่ผู้ต้องหาไม่ติดต่อเข้ามา ส่วนจะให้พระธัมมชโยสึกหรือไม่ ในเรื่องนั้นได้มี พ.ร.บ.สงฆ์ที่กำกับดูแลไว้แล้ว ซึ่งจะต้องเป็นไปตามขั้นตอน
“ส่วนตัวมองว่าคดีนี้นานแล้ว อยากให้จบได้แล้ว ผมอยากได้ตัวพระธัมมชโยมาดำเนินคดี เพราะได้ให้โอกาสนานแล้ว ซึ่งการปฏิบัติหน้าที่ก็จะต้องระมัดระวัง ไม่ให้กระทบศาสนา” แหล่งข่าวเปิดเผยว่าพนักงานสอบสวน สภ.ธัญญบุรี ได้เตรียมเสนอศาลจังหวัดธัญญบุรีออกหมายจับ พระทัตตชีโว ในสองข้อหา ฐานให้ที่พักพิงผู้ต้องหาตามหมายจับ และละเลยการปฏิบัติหน้าที่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลเงินบริจาค1.4พันล้านถูกนำไปเล่นหุ้น
พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่าวันเดียวกันนี้มีการประชุมคณะพนักงานสอบสวนคดีฟอกเงิน ที่เกี่ยวข้องกับการรับเช็คบริจาค 1,400 ล้านบาท ของพระธัมมชโย เจ้าอาวาสวัดพระธรรมกาย สืบเนื่องจากคดียักยอก ฉ้อโกงสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น โดยรับแจ้งว่ามีการหารือถึงประเด็นที่ต้องดำเนินการเพิ่มเติมกับ ผู้เกี่ยวข้องกับการรับเช็คของสหกรณ์ที่บางส่วนเข้าวัดและบางส่วนไปอยู่ที่กลุ่มพระและกลุ่มบุคคลภายนอกที่นำไปซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ นอกจากนี้ยังหารือถึงประเด็นการขอหมายค้น ซึ่งพนักงานสอบสวนระบุว่าได้เตรียมทำเอกสารขอหมายค้นไว้เรียบร้อยแล้ว แต่ต้องรอการเจรจาจากสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ด้วย วัน เวลา ในการขอหมายยังไม่สามารถระบุได้ ต้องรอการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพราะในการเข้าค้นต้องสนธิกำลังร่วมกันหลายฝ่าย ส่วนกรณีที่รักษาเจ้าอาวาสไม่ตอบกลับข้อซักถามตามหนังสือของดีเอสไอก็จะออกหมายเรียกดำเนินการต่อไป