หัวข้อข่าว: พ้อเป็นน้องบิ๊กตู่เลยโดนโจมตี
ที่มา: ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2559
* “บิ๊กติ๊ก” โอด “ลูก-เมีย” โดนโจมตี เหตุเป็นน้องชาย “บิ๊กตู่” ปัดใช้อำนาจช่วยบุตรชาย กห.แจงชื่อ “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ชาวบ้านช่วยกันตั้งต้อนรับ “ศรีสุวรรณ” ยื่น ป.ป.ช.สอบ 4 นายทหารใหญ่
เมื่อวันที่ 19 กันยายน พล.อ. ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ชี้แจงถึงกรณีที่สำนักข่าว อิศราระบุว่า หจก.คอนเทมโพรารี คอนสตรัคชั่น ที่มีบุตรชายถือหุ้นส่วนรับเหมา 2 โครงการกองทัพภาค 3 ส่วนหน้าสร้างอาคารค่ายพ่อขุนผาเมือง ตึกแถวนายทหารประทวน โรงพยาบาลค่ายวชิรปราการ จ.ตาก จำนวน 26.9 ล้านบาท ว่า เรื่องนี้บุตรชายทำถูกกฎหมายทุกอย่าง โดยเฉพาะขั้นตอนของการประกวดราคาที่มีหลายบริษัทเข้าร่วมแข่งขัน เมื่อบริษัทลูกชายของตนเสนอราคาเป็นที่น่าพอใจ ทางกองทัพภาคที่ 3 จึงได้ว่าจ้างให้บริษัทลูกชายตนเข้าไปรับเหมาก่อสร้าง โดยที่ตนไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวอะไรหรือใช้อำนาจไปบีบบังคับว่าคนนี้เป็นบุตรชายตนแล้วจะต้องได้โครงการดังกล่าว
เมื่อถามว่า ทำไมช่วงนี้ถึงโดน มรสุมรอบด้าน ทั้งภรรยา ในเรื่องการสร้างฝายพัฒนา และบุตรชาย เป็นเพราะเป็นน้องชายของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี หรือไม่ พล.อ.ปรีชากล่าวว่า แน่นอนอยู่แล้ว จึงได้นำประเด็นหลายๆ ประ เด็นมาผูกโยงกัน แต่ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง ของภรรยาและบุตรชาย ตนไม่สนอยู่แล้ว อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ตนพยา ยามทำใจอยู่แล้ว แต่เรื่องทั้งหมดคงจะรู้ว่า ตน ภรรยา และลูกชาย ได้ทำอะไรไว้บ้าง แต่ทุกอย่างครอบ ครัวตนทำอย่างถูกต้องตรงไปตรงมา ถ้าเรื่องไม่ถูกต้องตนไม่ทำอยู่แล้ว
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลา โหม กล่าวถึงกรณีการวิพากษ์วิจารณ์ เรื่องความเหมาะสมการนำชื่อนางผ่องพรรณ จันทร์โอชา ภรรยาของ พล.อ.ปรีชา ตั้งชื่อฝาย ที่ อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ ว่า “ฝายแม่ผ่องพรรณพัฒนา” ว่า ส่วนตัวเชื่อว่าไม่ได้มีเจตนา แต่โซเชียลมีเดียวิพากษ์วิจารณ์เกินเหตุ ซึ่งจากการที่รู้จักทั้ง พล.อ.ปรีชา และนางผ่องพรรณ เชื่อว่าไม่มีเจตนา มักใหญ่ใฝ่สูง
มีรายงานข่าวจากสำนักปลัดกระทรวงกลาโหมชี้แจงกรณีดังกล่าวว่า การสร้างฝายจุดนี้ เป็นไปตามแนวคิดของนางผ่องพรรณ ในฐานะนายกสมาคมภริยาข้าราชการสำนักงานปลัดกลาโหม ที่ได้หารือหน่วยในพื้นที่ ตั้งแต่เมื่อ 23 ส.ค.59 จากนั้นทหารได้ร่วมกับชาวบ้านในการสำรวจเลือกจุดที่จะสร้างฝาย แล้วช่วยกันสร้างฝาย โดยใช้ไม้ไผ่และหินที่มีอยู่แล้วตามภูมิประเทศ ไม่ได้ใช้งบประมาณอะไรมากนัก ส่วนเรื่องชื่อฝาย “ฝายแม่ผ่องพรรณ พัฒนา” นั้น เกิดจากชาวบ้านช่วยกัน คิดชื่อขึ้นมาเองเพื่อเป็นการต้อนรับ
ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นเรื่องต่อ คณะกรรมการ ป.ป.ช.เพื่อขอให้ตรวจสอบ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.อ.อ.ตรีทศ สนแจ้ง ผู้บัญชาการทหารอากาศ พล.ท.ศิริพงษ์ วงศ์ขันตี เจ้ากรมการ พลังงานทหาร และ พล.ต.พิสิทธิ์ สิงหราไชย ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาปิโตรเลียมภาคเหนือ สังกัดศูนย์การ ปฏิบัติการป้องกันประเทศและพลังงานทหาร เข้าข่ายทุจริตต่อตำแหน่งหรือหน้าที่ ตามมาตรา 4 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2542 กรณีเอื้ออำนวยความสะดวกให้กับนางผ่องพรรณ ที่เดินทางไปเป็นประธานสร้างฝายชะลอน้ำ ที่อุทยานแห่งชาติดอยเวียง ผา อ.ฝาง จ.เชียงใหม่ เมื่อวันที่ 12 ก.ย.59 โดยตั้งชื่อฝายว่า “ฝายแม่ ผ่องพรรณพัฒนา” มีการแจกแท็งก์ น้ำ พร้อมขึ้นป้ายไวนิลมีรูปหน้าของตัวเอง.