วัฒนา’ โวยไม่ได้รับความเป็นธรรม หวั่น’คสช.’แทรกแซง’คดีบ้านเอื้ออาทร’/เชื่อหวังตัดกำลังพรรคเพื่อไทย

หัวข้อข่าว: วัฒนา’ โวยไม่ได้รับความเป็นธรรม หวั่น’คสช.’แทรกแซง’คดีบ้านเอื้ออาทร’/เชื่อหวังตัดกำลังพรรคเพื่อไทย

ที่มา: สยามรัฐ ฉบับวันที่ 21 กันยายน พ.ศ. 2559

 

เมื่อวันที่ 20 ก.ย. ที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)นายวัฒนา เมืองสุข แกนนำ และอดีตส.ส.พรรคเพื่อไทย ยื่นหนังสือต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อขอความเป็นธรรมกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. แต่งตั้งคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ กรณีเมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เรียกรับเงินจากผู้ประกอบการเอกชนในการจัดซื้อจัดจ้างโครงการบ้านเอื้ออาทรของการเคหะแห่งชาติในยุครัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 

นายวัฒนา กล่าวว่า ที่มายื่นขอความเป็นธรรม เนื่องจากในช่วงที่มีการไต่สวนคดีเกี่ยวกับกรณีบ้านเอื้ออาทรนานกว่า 10 ปี คดีไม่มีความคืบหน้าและ ป.ป.ช. ไม่เคยขอข้อมูลหลักฐานหรือเชิญตนมาให้ข้อมูลแม้แต่ครั้งเดียวเชื่อได้ว่าสาเหตุที่คดีไม่มีความคืบหน้าเพราะเป็นการตั้งข้อกล่าวหาที่พิสดารจึงไม่มีหลักฐานเชื่อมโยง อีกทั้งยังแยกสำนวนเป็น 2 สำนวน สำนวนแรกส่งให้อัยการแล้ว แต่ทางอัยการเห็นควรให้รอสำนวนคดีของตนก่อน จึงจะนำส่งฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ทั้งที่คดีนี้ไม่มีความคืบหน้ามาเป็นเวลานานกลับเป็นเรื่องแปลกที่เกิดความคืบหน้าในยุครัฐบาลทหาร ซึ่งในช่วงที่ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมือง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ออกมาขู่เกี่ยวกับคดีที่อยู่ในชั้น ป.ป.ช. หลายครั้ง ดังนั้นจึงอยากขอข้อมูลจาก ป.ป.ช.ในการไต่สวนคดี เพราะอยากให้การพิจารณาอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่อยากถูกแทรกแซงทางการเมือง

 

“น่าสังเกตว่าในยุครัฐบาลทหารมีคดีทางการเมืองที่แปลกพิสดารเกิดขึ้นหลายคดี เช่น การชี้มูลความผิดอดีตส.ส. ที่เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ และคดีโครงการรับจำนำข้าว และคดีส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นกับพวกของผม จึงไม่แน่ใจว่ากว่าจะถึงการเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะเหลือผู้สมัคร ส.ส.กี่คน” นายวัฒนากล่าว

 

แหล่งข่าวจากสำนักงาน ป.ป.ช.เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ ที่มีนายณรงค์ รัฐอมฤต เป็นประธานฯ ได้สรุปสำนวนข้อเท็จจริงเสร็จสิ้นแล้ว และเตรียมนำเสนอต่อที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาลงมติในที่ 20 ก.ย. แต่เมื่อนายวัฒนา มายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม จะส่งผลทำให้กระบวนการต้องล่าช้าออกไปเพราะ ป.ป.ช.จะต้องพิจารณาว่า หนังสือของนายวัฒนามีพยานหลักฐานใหม่หรือไม่ หากมีก็ต้องส่งเรื่องกลับไปยังชั้นคณะอนุกรรมการไต่สวนฯ เพื่อดำเนินการไต่สวนต่ออีกครั้ง