หัวข้อข่าว กลต.ยกระดับซีจีวางกติกากองทุน
ที่มา; โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 23 กันยายน พ.ศ. 2559
โพสต์ทูเดย์ – ก.ล.ต.วาง 7 ข้อปฏิบัติ ยกระดับธรรมาภิบาลนักลงทุนสถาบัน พบลงทุนหุ้นมีปัญหาธรรมาภิบาล จี้บริษัทแจง-เข้าพบผู้บริหาร ดีกว่าขายหุ้นทิ้ง
สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เปิดเผยว่า ก.ล.ต.เปิดให้ผู้สนใจทั่วไปร่วมแสดงความคิดเห็นต่อหลักธรรมาภิบาลการลงทุน (ซีจี) สำหรับผู้ลงทุนสถาบัน (Investment Governance Code: I Code) ถึงวันที่ 31 ต.ค.นี้ ซึ่งเป็นหลักปฏิบัติสำหรับผู้ลงทุนสถาบันให้บริหารจัดการลงทุนด้วยความรับผิดชอบโดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของลูกค้า โดยให้ผู้ลงทุนสถาบันเริ่มประกาศเจตนารมณ์ปฏิบัติ ตามด้วยความสมัครใจในปี 2560 และเปิดเผยข้อมูลตามหลักปฏิบัติตั้งแต่ปี 2561 เป็นต้นไป
สำหรับหลักปฏิบัติครอบคลุม 7 ข้อ ได้แก่ (1) กำหนดนโยบายธรรมาภิบาลการลงทุนที่ชัดเจน (2) มีการจัดการความขัดแย้งทางผลประโยชน์อย่างเพียงพอเพื่อประโยชน์ที่ดีที่สุดของลูกค้า (3) ตัดสินใจและติดตามการดำเนินงานของบริษัทที่ลงทุนอย่างใกล้ชิดและทันเหตุการณ์ (4) เพิ่มระดับการติดตามบริษัทที่ลงทุนหากการติดตามในข้อ 3 ไม่เพียงพอ (5) เปิดเผยนโยบายการใช้สิทธิออกเสียงและผลการใช้สิทธิ (6) ร่วมมือผู้ลงทุนอื่นตามความเหมาะสม และ (7) เปิดเผยนโยบายธรรมาภิบาลการลงทุนและการปฏิบัติ
นอกจากนี้ ยังเป็นประโยชน์ต่อผู้ลงทุนสถาบันไทยให้แข่งขันได้ในระดับสากลและเป็นเครื่องมือนำร่องในการแก้ไขปัญหาประเทศในการกระตุ้นบริษัทจดทะเบียนมีบรรษัทภิบาลที่ดี (ซีจี) มีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (ESG)
ปัจจุบันผู้ลงทุนสถาบันเปิดเผยนโยบายการใช้สิทธิออกเสียงและทำธุรกรรมที่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์แล้ว สิ่งที่ต้องเพิ่ม คือ จัดทำนโยบายธรรมาภิบาลลงทุน, ติดตามบริษัทที่ลงทุนใกล้ชิด เพื่อจัดการปัญหาแต่ต้น อาจส่งผลดีต่อมูลค่าหุ้นเป็นประโยชน์มากกว่าขายทิ้ง เช่น พบบริษัทอาจมีปัญหาไม่ปฏิบัติ ตามบรรษัทภิบาลก็ออกหนังสือให้บริษัทชี้แจง, ขอเข้าพบกรรมการอิสระ กรรมการตรวจสอบ หากยังเฉยอาจร่วมมือผู้ลงทุนสถาบันอื่นเพื่อซักถามและใช้สิทธิประชุมผู้ถือหุ้น