หัวข้อข่าว ‘วิษณุ‘ป้อง‘ลูกบิ๊กติ๊ก‘ ใช้บ้านพัก‘ขรก.‘ตั้งบริษัทได้
ที่มา; ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559
ผู้จัดการรายวัน360 – “วิษณุ” ชี้บ้านพักราชการ ตั้งบริษัทได้ เปรียบเหมือนบ้านเช่า แต่เหมาะสมหรือไม่เป็นอีกเรื่อง ย้ำประเทศไทยมีอะไรที่ไม่น่าทำอีกเยอะ แต่ก็ยังทำ ด้าน “บิ๊กต๊อก” เผยเรื่องยังมาไม่ถึง ศอตช. ขณะที่องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน เตือนรัฐบาลรีบกำจัดจุดอ่อน
นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการที่ลูกชาย พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม น้องชายนายกรัฐมนตรี ใช้บ้านพักในค่ายทหาร จดทะเบียนตั้งบริษัทรับเหมาก่อสร้าง ว่า ตนไม่ทราบข้อเท็จจริง แต่ที่คิดก็คือ หากเขามีบ้านอยู่ที่นั่น ทะเบียนบ้านเขาอยู่ที่นั่น เวลามีเลือกตั้งเขาก็ไปเลือกตั้งตามทะเบียนบ้าน ซึ่งหากเป็นอย่างนั้น เวลาจดทะเบียนก็ต้องใช้ตามนี้ แต่ปัจจุบันเราเอาตรงนี้มาตีความว่า จดทะเบียนบริษัทในค่ายทหาร ซึ่งเป็นคำพูดที่เอาไว้เหน็บแนมกันมากกว่า
ผู้สื่อข่าวถามว่า บ้านพักข้าราชการ สามารถนำมาเป็นที่ตั้งบริษัทได้หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ได้ “พูดกันตรงๆ นะ ไม่มีอะไรห้ามเลย ลองคิดว่าเป็นบ้านเช่าก็ได้ คุณไปอาศัยเขาอยู่ และขอบ้านนั้นเป็นที่ตั้งบริษัท มันก็สามารถทำได้ และถามกลับว่าถ้ามันเป็นของข้าราชการล่ะ มันก็ไม่มีปัญหานี่” รองนายกฯ กล่าว
เมื่อถามว่า โดยหลักการหรือความเหมาะสมแล้วไม่ควรทำหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า “ไม่รู้ นั่นเป็นอีกเรื่องหนึ่ง ประเทศไทยมีอะไรที่โดยหลักการไม่น่าทำ มีอีกเยอะ แต่ก็ทำ” นายวิษณุกล่าว
ด้าน พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะ ประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึง กรณีการตรวจสอบบริษัทของครอบครัว พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม หลังชนะประมูลรับงานก่อสร้างของกองทัพภาคที่ 3 ว่า ขณะนี้เรื่องดังกล่าวยังไม่ถึง ศอตช. และต้องเข้าใจว่า ศอตช. เป็นหน่วยงานบูรณาการ ถ้าหน่วยงานใน ศอตช. ไม่ว่าจะเป็นองค์กรอิสระอย่าง สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) สามารถรับเรื่อง และดำเนินการตรวจสอบได้เอง ก็จะจบ ก็ไม่จำเป็นต้องเข้ามาสู่ระบบการทำงานแบบบูรณาการที่ ศอตช.
“องค์กรต้านโกง” เตือนรีบกำจัดจุดอ่อน
ขณะเดียวกัน องค์กรต่อต้านคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ได้โพสต์เฟซบุ๊กเผยแพร่แถลงการณ์กรณีข่าวของครอบครัว พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา ปลัดกระทรวงกลาโหม ที่กำลังเป็นประเด็นสังคมอันอาจจะนำพาไปสู่ปัญหาของความเชื่อมั่นในความซื่อตรงของผู้นำประเทศดังนี้
- จะต้องมีการตรวจสอบติดตามให้ข้อเท็จจริงปรากฏอย่างชัดเจนและรวดเร็ว และการตรวจสอบต้องเป็นไปตามกระบวนการขั้นตอนของกฎหมาย โดยไม่มีการเข้าไปก้าวก่ายหรือครอบงำอย่างเด็ดขาด ทุกอย่างต้องให้โปร่งใส อยู่ในสายตาของสาธารณชน
- และเพื่อเป็นการป้องกันมิให้กรณีเช่นนี้เกิดขึ้นอีก รัฐบาลต้องให้ความสำคัญในการกำหนดนโยบายเรื่อง ประโยชน์ทับซ้อน (Conflict of Interest) ในการบริหารจัดการโครงการต่างๆ ทั้งนี้ เพราะระบบอุปถัมภ์ หรือการเอื้อประโยชน์ต่อคนใกล้ชิดเป็นจุดอ่อนของสังคมไทย และเป็นจุดเริ่มต้นที่ร้ายแรงของการทุจริตคอร์รัปชัน เป็นสิ่งที่จะต้องทำให้หมดไปจากประเทศ ต้องช่วยกันต่อต้านไม่ให้ค่านิยมในการอุปถัมภ์เป็นข้ออ้างในการทุจริตคดโกง
องค์กรต่อต้านคอร์รัปชันฯ สนับสนุนการทำงานของรัฐบาลในการต่อสู้กับการคอร์รัปชันและชื่นชมในความสุจริตซื่อตรงของ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชาในฐานะผู้นำประเทศที่มี นโยบายชัดเจนและมีผลงานในการปราบปรามลงโทษผู้ทุจริตคดโกง เราเชื่อมั่นว่า เรื่องนี้จะได้รับการตรวจสอบ สะสางอย่างโปร่งใสตามกระบวนการยุติธรรม และจะเป็นการกำหนดบรรทัดฐานใหม่ของประเทศไทยต่อไปใน ภายหน้า.