หัวข้อข่าว กสทช.สั่งระดับผอ.ขึ้นไปยื่นบัญชีทรัพย์สิน
ที่มา; ฐานเศรษฐกิจ ฉบับวันที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2559
กสทช. นำร่องกำหนดนโยบายให้รองเลขาธิการ กสทช. จนถึง ผอ.สำนัก และผู้ที่เกี่ยวข้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและหนี้สิน ดีเดย์ 1 ต.ค. สนองคสช.ปราบทุจริต
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. เปิดเผยเมื่อเร็วๆ นี้ว่า ขณะนี้สำนักงาน กสทช. ได้ออกคำสั่งเป็นนโยบายการทำงานของสำนักงาน กสทช. โดยให้พนักงานของ กสทช. ที่มีตำแหน่งดังต่อไปนี้ 1. รองเลขาธิการ กสทช. 2. ผู้เชี่ยวชาญพิเศษ 3. ผู้อำนวยการสำนัก 4. ผู้อำนวยการสำนักงาน กสทช. ภาค 5. ผู้เชี่ยวชาญ 6. ผู้อำนวยการสำนักงานกสทช. เขต และ 7. ผู้อำนวยการส่วนของสำนักการพัสดุและบริหารทรัพย์สิน ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สินตามแบบฟอร์มของสำนักงาน ป.ป.ช. ไว้กับสำนักงานกสทช. โดยกำหนดระยะเวลาในการยื่นบัญชีดังกล่าวภายในระยะเวลา 180 วัน นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2559
“การดำเนินการดังกล่าวกสทช. ตั้งใจในการที่จะทำให้องค์กรมีความโปร่งใสทุกขั้นตอนเพื่อตอบสนองนโยบายรัฐบาลและ คสช. ในการดำเนินการปราบปรามการทุจริต โดยได้มีการลงนามความร่วมมือกับสำนักงาน ป.ป.ช. เพื่อเป็นองค์กรแห่งความโปร่งใส”
อนึ่งก่อนหน้านี้ “กองทุนวิจัยและพัฒนากิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคม เพื่อประโยชน์สาธารณะ” หรือกทปส. ซึ่งอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานกสทช. ได้ดำเนินการปรับแผนยุทธศาสตร์ใน 5 ปีข้างหน้า ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ปี 2560-2564 โดยจะใช้แผนแม่บท ฉบับสมบูรณ์เป็นตัวกำหนดทิศทางคือหรือขอบข่ายวัตถุ ประสงค์ในการเปิดรับโครงการต่างๆ เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางหลักตามไทยแลนด์ 4.0 โดยมุ่งเน้น 3 ส่วนหลักคือ 1. ด้านการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมที่ ส่งเสริมให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น 2. ด้านการพัฒนาบุคลากร รวมถึงผู้เกี่ยวข้องให้มีความรู้ ทักษะที่ทันสมัยและเหมาะกับวิชาชีพของตน และ 3.ด้านการสื่อสารถึงการดำเนินงานของ กทปส.ที่โปร่งใสเป็นธรรม สามารถตรวจสอบได้
โดยในปี 2556-2557 ที่ผ่านมา กทปส. รายงานว่า ทางคณะกรรมการได้อนุมัติวงเงินกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ ให้แก่โครงการต่างๆ ที่นำเสนอเข้ามาเพียง 1 ใน 4 ของวงเงินที่จัดสรรให้ทั้งหมด ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ได้ไม่เต็มที่ จากตัวเลขปี 2556 กทปส. ได้จัดสรรวงเงินกองทุนวิจัยและพัฒนาฯ ในวงเงิน 150 ล้านบาท แต่มีโครงการที่ผ่านการอนุมัติเพียง 10 โครงการ ในวงเงิน 32 ล้านบาท และในปี 2557 มีวงเงินสูงถึง 600 ล้านบาท แต่มีโครงการ ที่ผ่านการอนุมัติเพียง 34 โครงการ ในวงเงิน 159 ล้านบาทเท่านั้น ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่เกิดจากโครงการที่นำเสนอเข้ามามีความซ้ำซ้อนกับภารกิจที่สำนักงาน กสทช. และกทปส.ได้ดำเนินการอยู่แล้ว