หัวข้อข่าว: สื่อมะกันแฉแหลกทรัมป์เลี่ยงภาษีเกือบ 20 ปี
ที่มา: โพสต์ทูเดย์ ฉบับวันที่ 3 ตุลาคม พ.ศ. 2559
เว็บไซต์ข่าวของนิวยอร์กไทมส์ เปิดเผยรายงานพิเศษพร้อมเอกสารที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับข้อมูลทางภาษีและธุรกิจของ โดนัลด์ ทรัมป์ นักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐ จากพรรครีพับลิกัน ซึ่งเป็นหลักฐานบ่งชี้ว่า ทรัมป์อาจจะหลีกเลี่ยงการจ่ายภาษีมาเกือบ 20 ปี ผ่านช่องว่างทางกฎหมาย
นิวยอร์กไทมส์ เปิดเผยเอกสาร 3 ฉบับ ซึ่งระบุว่าเป็นข้อมูลการคืนภาษีในปี 2015 ของรัฐในนิวยอร์ก คอนเนกทิคัต และนิวเจอร์ซีย์ ซึ่งทางหนังสือพิมพ์ได้รับเอกสารดังกล่าวทางอีเมลเมื่อเดือนที่แล้ว
รายงานดังกล่าวเปิดเผยข้อมูลการได้รับเงินคืนทางภาษีของทรัมป์ เมื่อปี 1995 ซึ่งพบว่า ทรัมป์มีประวัติการขาดทุนจากธุรกิจ 916 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 3.16 หมื่นล้านบาท) โดยอาจจะเป็นส่วนช่วยให้ทรัมป์สามารถลดการจ่ายภาษีรายรับต่อรัฐบาลสหรัฐได้เป็นเวลาหลายปี
นิวยอร์กไทมส์ ยังอ้างความเห็นนักวิเคราะห์ทางภาษีระบุว่า จากเอกสารข้อมูลภาษีเงินได้ของทรัมป์สะท้อนว่า ทรัมป์อาจได้รับส่วนลดสำหรับการจ่ายภาษีมานานหลายปี จากการอ้างการขาดทุนทางธุรกิจที่เป็นผลจากการล้มละลายและการบริหารผิดพลาด นำไปสู่การหลบเลี่ยงการเสียภาษีให้แก่รัฐบาลกลาง
ทั้งนี้ แม้ว่าข้อมูลภาษีรายรับของทรัมป์จะยังไม่ได้รับการเปิดเผย แต่นักวิเคราะห์มองว่า การขาดทุนดังกล่าวในปี 1995 นั้น อาจจะทำให้ทรัมป์ได้รับส่วนลดจากการเว้นภาษีรายรับกว่า 50 ล้านเหรียญสหรัฐ/ปี (ราว 1,728 ล้านบาท) ในช่วงเวลากว่า 18 ปี
รายงานดังกล่าวเสริมว่า ความเสียหายทางการเงินที่ทรัมป์ทิ้งไว้เมื่อช่วงต้นปี 1990 มาจากความผิดพลาดใน การบริหารธุรกิจกาสิโน แอตแลนติก ซิตี้ 3 แห่ง และผันเข้าสู่ธุรกิจการบินที่สุดท้ายก็ไม่ประสบความสำเร็จ รวมทั้งการเข้าซื้อโรงแรม เดอะ พลาซ่า โฮเทล ในแมนฮัตตัน ในช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสม
“ทรัมป์ได้ประโยชน์อย่างมากจากความเสียหายทางธุรกิจของตัวเอง” โจเอล โรเซนเฟล ผู้ช่วยศาสตราจารย์ด้านอสังหาริมทรัพย์ที่มหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ระบุ
ด้านทีมหาเสียงของทรัมป์ตอบโต้รายงานดังกล่าว ออกแถลงการณ์ระบุว่า ทรัมป์ได้จ่ายเงินหลายร้อยล้านเหรียญสหรัฐให้กับทางการ ครอบคลุมภาษีที่ดิน ภาษีขาย ภาษีสรรพสามิต ภาษีอสังหาริมทรัพย์ ภาษีเมือง ภาษีรัฐ ภาษีลูกจ้าง และภาษีต่อรัฐบาลกลางสหรัฐ พร้อมทั้งโจมตีว่า การเปิดเผยข้อมูลด้านภาษีส่วนบุคคลของนิวยอร์กไทมส์เป็นเรื่องผิดกฎหมาย
“ทรัมป์รู้เรื่องรหัสภาษีดียิ่งกว่าผู้สมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่ผ่านมาทุกคน และเขาก็เป็นคนเดียวที่รู้ว่าจะต้องแก้ไขอย่างไร” แถลงการณ์ระบุ
จุดประเด็นภาษีเปลี่ยนทิศเลือกตั้ง
การเปิดเผยดังกล่าว ยิ่งเสริมแรงกดดันให้ทรัมป์เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเกี่ยวกับการจ่ายภาษี ซึ่งทรัมป์ปฏิเสธที่จะเปิดเผยรายงานการได้รับการคืนภาษีมาตลอด โดยระบุว่า ข้อมูลดังกล่าวอยู่ภายใต้การตรวจสอบของหน่วยงานของรัฐ ซึ่งยังไม่สามารถเปิดเผยได้จนกว่าการตรวจสอบภาษีจะสรุปผลเรียบร้อย แตกต่างจากธรรมเนียมปฏิบัติของผู้ชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐตลอด 40 ปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี กฎหมายสหรัฐไม่ได้ห้ามประชาชนเปิดเผยข้อมูลการได้รับเงินคืนจากภาษี แม้จะยังอยู่ในระหว่างการตรวจสอบโดยสำนักตรวจสอบภาษี ขณะที่ที่ปรึกษาทางภาษีบางรายระบุว่า การเปิดเผยจะนำไปสู่การตรวจสอบของสาธารณชน และอาจจะพบประเด็นที่ ผู้ตรวจสอบพลาดไป
ขณะเดียวกัน ทีมหาเสียงของ ฮิลลารี คลินตัน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครต ซึ่งพยายามจับผิดทรัมป์ในประเด็นเรื่องความโปร่งใส ก็ใช้โอกาสจากการเปิดเผยของนิวยอร์กไทมส์ ระบุว่า การเปิดเผยนี้เป็นระเบิดที่เปิดโปงความล้มเหลวในการทำธุรกิจของทรัมป์ในอดีตและการหลีกเลี่ยงภาษีของมหาเศรษฐี
การเปิดเผยดังกล่าว ยิ่งกระตุ้นกระแสวิจารณ์กรณีที่ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลภาษีให้กลับมาเป็นประเด็นสนใจของสาธารณชนอีกครั้ง ในช่วงเวลาอีกไม่ถึง 40 วันก่อนการเลือกตั้ง ด้านซีเอ็นเอ็นระบุว่า แม้การเปิดเผยของนิวยอร์กไทมส์จะไม่สามารถวัดผลกระทบที่ตามมาได้ชัดเจน แต่ก็ก่อให้เกิดคำถามเรื่องภาษีและความสามารถทางธุรกิจของทรัมป์
ก่อนหน้านี้ ในระหว่างการโต้อภิปรายเมื่อวันที่ 27 ก.ย.ที่ผ่านมา ฮิลลารีได้ยกประเด็นข้อสงสัยเกี่ยวกับกรณีที่ทรัมป์ไม่ยอมเปิดเผยข้อมูลการคืนภาษีเงินได้ ระบุในทำนองว่า ทรัมป์ไม่ต้องการให้สาธารณชนรับรู้ว่า ไม่ได้จ่ายภาษีให้รัฐบาลกลาง โดยอ้างรายงานของวอชิงตันโพสต์บ่งชี้ว่า ทรัมป์ไม่ได้จ่ายภาษีให้รัฐบาลกลางในช่วงปี 1978 และ 1979 ซึ่งทรัมป์ตอบโต้ ฮิลลารีในตอนนั้นว่า “นั่นเป็นเพราะผมเป็นคนฉลาด” ส่วนทีมหาเสียงของทรัมป์ ระบุว่า ทรัมป์รับผิดชอบต่อธุรกิจ ครอบครัวและลูกจ้าง โดยการไม่จ่ายภาษีเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด
ทีมงานของพรรครีพับลิกันหลายรายคาดการณ์ว่า ข่าวการเปิดเผยดังกล่าวจะส่งผลต่อทิศทางการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐวันที่ 8 พ.ย.อย่างมาก โดยผู้ลงคะแนนเสียงจะมองเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษีเป็นเรื่องเกี่ยวกับความเท่าเทียม
“ชาวอเมริกันเกือบทั้งหมดรู้ดีว่ามี 2 สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ นั่นคือ ความตายและการจ่ายภาษี” เดวิด โคเชล หัวหน้านักกลยุทธ์ทีมหาเสียงของ เจ้บ บุช กล่าว
ก่อนหน้านี้ ทรัมป์ก็มักจะเรียกร้องให้กลุ่มคนรวย โดยเฉพาะเฮดจ์ฟันด์ จ่ายภาษีในอัตราที่สูงขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ทรัมป์ก็ดึงฐานเสียงกลุ่มคนทำงานชนชั้นกลางได้มาก