มท.1ปล่อยผี’สุขุมพันธุ์’ เมินเอาผิดทางละเมิดปมไฟ39ล.

หัวข้อข่าว: มท.1ปล่อยผีสุขุมพันธุ์เมินเอาผิดทางละเมิดปมไฟ39ล.

ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2559

 

          ผู้จัดการรายวัน360 – “อนุพงษ์” เมินเอาผิดทางละเมิด “อุโมงค์ไฟ 39.5 ล้าน” ของ กทม. อ้างยังไม่เสียหาย เหตุยังไม่จ่ายเงิน โยน ป.ป.ช.ไล่เบี้ยทางอาญา ส่วนทางวินัยให้ กทม.สอบเอง เผยยังไม่รู้เรื่อง สตง.ตรวจพบ อบจ.บุรีรัมย์เบิกเงิน 20 ล้าน พาคนเชียร์ทีม “บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด” ลั่นพบผิดจริง ไม่ปล่อยไว้แน่

 

          ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้สัมภาษณ์ก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ถึงความคืบหน้าการตรวจสอบความไม่โปร่งใสโครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฟ้าเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวของกรุงเทพมหานคร (กทม.) หรือโครงการอุโมงค์ไฟ 39.5 ล้านบาทว่า ในส่วนที่กระทรวงมหาดไทยดำเนินการโดยตรง คือ การตรวจสอบว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดกรุงเทพมหานคร (กทม.) มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเรื่องนี้หรือไม่ ส่วนประเด็นอื่นๆ ที่สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ส่งมา เราได้ให้ส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการ คือ เรื่องร้องทุกข์กล่าวโทษทางอาญา ส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่วนเรื่องการสอบสวนทางวินัยข้าราชการ ในส่วนนี้ กทม.จะดำเนินการ อย่างไรก็ตาม การฟ้องร้องเมื่อมีความเสียหายเกิดขึ้น ทางคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่โครงการค่าใช้จ่ายในการประดับตกแต่งไฟฯ ยังไม่ได้จ่ายเงินจำนวน 39.5 ล้านบาทให้กับโครงการนี้

 

          ตามตัวหนังสือคือยังไม่มีความเสียหายเกิดขึ้น หากมีการจ่ายเงินและเกิดความเสียหาย ถึงจะพูดการเอาผิดทางละเมิดที่จะชดใช้ได้” พล.อ.อนุพงษ์ ระบุ

 

          พร้อมฟัน “อบจ.บุรีรัมย์” หากผิดจริง

          พล.อ.อนุพงษ์ กล่าวถึงกรณีที่ สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จ.บุรีรัมย์ตรวจสอบงบการเงินขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) บุรีรัมย์ พบมีการเบิกจ่ายเงินอุดหนุนจำนวน 20 ล้านบาทให้สมาคมกีฬา จ.บุรีรัมย์นำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการให้ประชาชนเชียร์ฟุตบอลทีมบุรีรัมย์ ยูไนเต็ดว่า ยังไม่เห็นเรื่องดังกล่าว แต่จะไปดูรายละเอียด ซึ่งโดยหลักการหากใครทำผิดต้องดำเนินการสอบสวนตามข้อเท็จจริง มีการลงโทษทั้งทางวินัย ทางอาญา หรือทางแพ่งตามกฎหมายกำหนด ทั้งนี้ หากมีความผิดที่เชื่อได้ว่ามีการทุจริตจริง เราไม่ปล่อยไว้ แต่ในส่วนการใช้มาตรา 44 นั้น หากมีคำสั่งออกมาก็จะมีขั้นตอนของการดำเนินตามลำดับต่อไป.