หัวข้อข่าว กก.อุบผล‘ตับแตก‘โยนยธ.-ตร.สอบต่อ
ที่มา; บ้านเมือง ฉบับวันที่ 6 ตุลาคม พ.ศ. 2559
คณะกรรมการฯ มีมติเอกฉันท์ “คดีตับแตกตาย” ของอดีตที่ดินพังงา ออกตัวแค่หาสาเหตุ “ตับแตกกระดูกหัก” เกิดจากเหตุใด ก่อนหรือหลังส่งถึงมือหมอ ไม่ชี้ “เสียชีวิตเองหรือถูกผู้อื่นทำให้ตาย” อุบไม่ขอเปิดเผยรายละเอียดอ้างคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวน จัดทำรายงาน 2 แนวทางส่ง ยธ.พิจารณาต่อก่อนส่งให้ ตร.ประกอบสำนวนสอบสวน ด้านน้องชายถึงกับมึนคำชี้แจง บอกพอรับฟังได้แต่ไม่เคลียร์ ย้ำแค่อยากรู้สาเหตุที่แท้จริงการเสียชีวิตของพี่ชาย
เมื่อวันที่ 5 ต.ค.59 นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ อธิบดีกรมพินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน ผศ.ดร.นพ.อุดมศักดิ์ หุ่นวิจิตร หัวหน้าฝ่ายนิติเวชศาสตร์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ ในฐานะคณะกรรมการตรวจสอบการเสียชีวิตของนายธวัชชัย อนุกูล ผู้ต้องหาคดีทุจริตออกเอกสารสิทธิที่ดิน ซึ่งเหตุเกิดภายในห้องควบคุมตัวของกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) แถลงผลการตรวจสอบโดยระบุว่า คณะกรรมกรรมการได้ตรวจสอบพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ ข้อเท็จจริงและพยานหลักฐานหลายฝ่ายทั้งจากโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ รายงานแพทย์นิติวิทยาศาสตร์ และได้ตรวจสอบเพิ่มจนได้ข้อมูลครบถ้วนเพื่อสอบทานทั้งหมด ประเด็นแรกคือ การหาสาเหตุการตาย ซึ่งเป็นกระบวนการของพนักงานสอบสวนตามกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญา และประเด็นที่ 2 มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตหรือไม่ โดยสน.ทุ่งสองห้องมีหนังสือขอรายละเอียดมายังกระทรวงยุติธรรมด้วย ทั้งนี้คณะกรรมการจะนำผลสรุปและข้อค้นพบของพยานผู้เชี่ยวชาญส่งไปให้ สน.ทุ่งสองห้อง และปลัดกระทรวงยุติธรรม สำหรับข้อค้นพบของคณะกรรมการมีมติเอกฉันท์ตรงกันเรื่องสาเหตุการตายแต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เพราะคดียังอยู่ระหว่างการสอบสวนของตำรวจ โดยสัปดาห์นี้จะส่งผลการตรวจสอบให้ สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อให้ดำเนินการทางคดีต่อไป
นายวิศิษฏ์ กล่าวอีกว่า ขอชี้แจงว่าคณะกรรมการชุดนี้ไม่ได้ทำเรื่องชันสูตร แต่ใช้ความเชี่ยวชาญของแพทย์นิติเวชและเชิญแพทย์จากราชวิทยาลัยมาร่วมให้ความเห็นด้วย โดยข้อคิดเห็นทั้งหมดจะส่งไปให้สน.ทุ่งสองห้อง เพื่อชี้ให้เห็นถึงการพิสูจน์ร่องรอยบาดแผลบนร่างกาย กระบวนการรักษา การส่งตัว การดูแล บาดแผลต่างๆ สอดคล้องรับได้กับส่วนใดหรือไม่ ซึ่งกรรมการมีมติเอกฉันท์ แต่บางเรื่องก็ยังไม่ชี้ขาด คณะกรรมการได้ตรวจสอบเทปกล้องวงจรปิดของดีเอสไอ พบว่ามีเจ้าหน้าที่อยู่ในจุดใดบ้าง เจ้าหน้าที่ที่ดูแลสถานที่ก็มีหลายคน โดยดีเอสไอได้ทำเอกสารระบุหน้าที่รับผิดชอบของเจ้าหน้าที่แต่ละคนมาให้คณะกรรมการด้วย แต่กรรมการชุดนี้ส่วนใหญ่เป็นแพทย์จึงมุ่งเน้นตรวจสอบในด้านนิติวิทยาศาสตร์ ไม่มีบทบาทมาชี้ว่าเจ้าหน้าที่ทำผิดหรือไม่ ในส่วนนี้กรรมการของกระทรวงยุติธรรมต้องประมวลข้อมูลเพื่อเสนอให้ปลัดกระทรวงรับทราบต่อไป
ผู้สื่อข่าวถามว่าสรุปแล้วเป็นการฆ่าตัวตายหรือมีผู้อื่นทำให้ตาย นายวิศิษฏ์ กล่าวว่า การตรวจ สอบคงไปไม่ถึงว่าเป็นการฆ่าตัวตายหรือมีผู้อื่นทำให้ตาย เพราะเป็นการค้นหาเพียงว่า ตับแตกและกระดูกหักเกิดจากสาเหตุอะไรได้บ้าง มีการทำไทม์ไลน์จากพยานหลักฐานทั้งหมดเพื่อระบุระยะเวลาของเหตุการณ์ ส่วนกรณีกระดูกคอตำแหน่งกล่องเสียงที่หัก เดิมมองไม่เห็นลักษณะการแตกหัก ขณะนี้มีความชัดเจนขึ้นจากการเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์ สามมิติหรือซีทีสแกน ซึ่งกรรมการมีความเห็นเป็นเอกฉันท์แต่ไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้
“ผมได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุการตายของนายธวัชชัย มีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องหรือไม่ และรายงานผลให้ปลัดกระทรวงรับทราบ ไม่มีหน้าที่ชี้แจงทำความเข้าใจกับสังคม ก่อนการแถลงข่าวกรรมการได้อธิบายผลการตรวจสอบให้นายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายของผู้เสียชีวิตให้รับทราบถึงสาเหตุการตาย และผลการตรวจสอบในประเด็นที่เป็นข้อติดใจสงสัยต่างๆ เป็นการพูดคุยทำความเข้าใจ ส่วนผลการไต่สวนการตายจะเป็นอย่างไรต้องรอฟังการสอบสวนของตำรวจ ผลการตรวจสอบของคณะกรรมการชุดนี้ ไม่ได้บอกขาวหรือดำ และไม่ผูกมัดการสอบสวนของตำรวจ แต่ตามกฎหมายประมวลวิธีพิจารณาความอาญานั้น ความเห็นของผู้เชี่ยวชาญเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ตำรวจทำได้ง่ายขึ้น” นายวิศิษฏ์ กล่าว
ด้านนายชัยณรงค์ อนุกูล น้องชายนายธวัชชัย เข้าร่วมรับฟังการแถลงข่าว โดยระบุว่าเท่าที่รับฟังเบื้องต้นก็พอรับฟังได้ส่วนหนึ่ง แต่ส่วนหนึ่งก็ยังไม่เคลียร์ เพราะคณะกรรมการแจ้งว่าจะอยู่ในสำนวนที่ต้องส่งให้ สน.ทุ่งสองห้อง จึงไม่สามารถเปิดเผย ออกมาได้หมด ซึ่งตนเข้าใจในสถานะของคณะกรรมการว่าจำเป็นต้องไม่เปิดทั้งหมด ขณะนี้ยังไม่มีการระบุให้ชัดว่าฆ่าตัวตายหรือถูกทำให้ตาย การตายถือว่าผิดธรรมชาติแต่ยังไม่เคลียร์ว่าใครทำให้ตาย ส่วนตัวยอมรับว่าอยากรู้ และอยากให้มีการทำให้เรื่องกระจ่าง ให้ทำอย่างมีเหตุมีผล หากเป็นไปตามนี้ตนรับได้ เพราะเดิมก็ไม่ได้ตั้งธงและไม่ได้คิดว่าจะให้คนนั้นผิด คนนี้ผิด ย้ำว่าต้องการแค่ความจริงเท่านั้น
“ผมยังติดใจ เพราะยังคิดไม่ทัน ไม่มีการคาดการณ์อะไร คาดไว้อย่างเดียวคือความกระจ่าง ความถูกต้อง มีเหตุมีผล หากวิทยาศาสตร์ให้การรับรอง ผมก็รับฟังได้ แต่ยังไม่เต็ม 100% ผมไม่ได้อยากรู้ว่าใครทำให้ตาย แต่อยากให้ทำให้กระจ่างเท่านั้น” นายชัยณรงค์ กล่าวและว่า สำหรับการขอทราบรายงานทั้งหมดได้รับการแจ้งว่าต้องทำหนังสือขอทราบอย่างเป็นทางการกับคณะกรรมการอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 5 ต.ค. เวลา 10.00 น. สน.ทุ่งสองห้องนัดหมายให้ตนเข้าพบเพื่อรับฟัง รายงานผลการชันสูตรอย่างละเอียดของนิติเวช รพ.ตำรวจ