หัวข้อข่าว: นายกฯมอบรมต.-ปลัดคลัง เซ็นทวงหนี้”ปู”
ที่มา: ผู้จัดการรายวัน 360 องศา ฉบับวันที่ 12 ตุลาคม พ.ศ. 2559
วานนี้ (11 ต.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา รมว.ยุติธรรม ในฐานะประธานศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงกรณี นายสมชัย สัจจพงษ์ ปลัดกระทรวงการคลังไม่ร่วมประชุมเพื่อพิจารณาข้อมูลตรวจสอบเจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องรับผิดชอบทางละเมิด ในโครงการรับจำนำข้าว อีกร้อยละ 80 เมื่อวันที่ 10 ต.ค.ว่า ทางกระทรวงการคลังไม่ได้เบี้ยวประชุม โดยนายสมชัยได้โทรศัพท์มาขอโทษตนภายหลังการประชุมว่า เกิดจากข้อผิดพลาดในการส่งเอกสารแจ้งประชุม จึงบอกว่าไม่เป็นไร สำหรับเรื่องข้าวนั้น การตรวจสอบจำเป็นต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกคน แต่เมื่อมีกรอบเวลากำหนดไว้จำเป็นต้องทำให้ทัน ทุกคนต้องทำทั้งวันทั้งคืนหากจำเป็น เบื้องต้นจากที่คุยในที่ประชุมเมื่อวันที่ 10 ต.ค.ที่ผ่านมา ทุกคนมีข้อมูลเรื่องข้าว ในส่วนของคดีอาญามีการฟ้องไปยังศาล ส่วนเรื่องทางแพ่งมีการเรียกค่าเสียหายในส่วนของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ร้อยละ 20 ไปแล้ว จึงไม่น่าจะช้า เพียงแต่เราต้องการข้อมูลให้ครบถ้วน
“ผมไม่ได้บอกว่าปลัดกระทรวงการคลังเบี้ยว แต่เมื่อองค์ประชุมไม่ครบก็ไม่สามารถประชุมได้ เพราะกระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลัก เมื่อไม่ครบองค์คณะจะประชุมทำไม และได้ให้เลขานุการ ศอตช.นัดประชุมใหม่แล้ว ซึ่งเมื่อเขาโทรศัพท์มาชี้แจงถือว่าจบ ไม่จำเป็นต้องรายงานนายกฯ แต่ถ้าไม่โทรศัพท์มาคงต้องรายงาน” พล.อ.ไพบูลย์ กล่าว
“บิ๊กตู่” เมินเซ็นทวงเงิน “ปู”
รายงานข่าวจากกระทรวงการคลังแจ่งว่า ล่าสุด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้มีคำสั่งมอบหมายให้ รมว.คลัง หรือ รมช.คลัง เป็นผู้ลงนามในหนังสือเรียกค่าเสียหายจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ จำนวน 3.57 หมื่นล้านบาท จากโครงการรับจำนำข้าว ซึ่งเบื้องต้นประเมินว่า น่าจะมีการลงนามได้ภายใน 1-2 สัปดาห์จากนี้
ด้าน นายสมชัย เปิดเผยว่า พร้อมที่จะลงนามในหนังสือเรียกค่าเสียหายจาก น.ส. ยิ่งลักษณ์ ในโครงการรับจำนำข้าวแล้ว ซึ่งการลงนามนั้นเป็นไปตามข้อกฎหมายและอำนาจหน้าที่ โดยยืนยันว่าไม่ได้รู้สึกกังวลแต่อย่างใด เพราะทำตามกระบวนการของกฎหมาย และปฏิบัติตามหน้าที่เท่านั้น