ย้อนคดีมรดกบุญ-บาป 47 ปี’ที่ธรณีสงฆ์-อัลไพน์

หัวข้อข่าว: ย้อนคดีมรดกบุญ-บาป 47 ปี’ที่ธรณีสงฆ์-อัลไพน์

ที่มา: คม ชัด ลึก ฉบับวันที่ 28 ตุลาคม พ.ศ. 2559,  โดย วัฒนา ค้ำชู สำนักข่าวเนชั่น

 

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม ที่ผ่านมา “ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบ” ได้ประทับรับคำฟ้องคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) ยื่นฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ อดีตรองปลัดกระทรวงมหาดไทย และอดีตหัวหน้าพรรคเพื่อไทย เป็นจำเลยต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ในความผิดฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157

 

คดีนี้สืบเนื่องมาจากกรณี ป.ป.ช. ลงมติเมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ชี้มูลความผิดกล่าวหานายยงยุทธ เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงมหาดไทยและรักษาราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ในปี 2544 มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งอธิบดีกรมที่ดินที่ให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนามสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งอธิบดีกรมที่ดินเห็นว่า เป็นการจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินของวัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ปทุมธานี โดยมิชอบและศาลได้นัดตรวจพยานหลักฐานในวันที่ 13 ธันวาคมนี้ ก่อนเข้าสู่กระบวนการพิจารณาคดีของศาลต่อไป

 

“ย้อนอดีตที่ดินอัลไพน์” กล่าวได้ว่า มีความยาวนานจนเกือบเป็น “ตำนาน” โดยที่ดินที่เป็นปัญหา คนที่เป็นเจ้าของดั้งเดิม คือนางเนื่อม ชำนาญชาติศักดา หรือยายเนื่อม แม้จะเสียชีวิตไปนานแล้ว แต่ดูเหมือน “คดีความ” เรื่องที่ดินจะตามติดไปยังผู้รับช่วง

 

หากมองจุดประสงค์หลักของ “เจ้าของที่ดิน” คือยายเนื่อม มีความประสงค์บริจาคที่ดินซึ่งตั้งอยู่ที่ อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จำนวน 924 ไร่ 2 งาน 75 ตารางวา ให้เป็นธรณีสงฆ์ คือ ให้แก่วัดธรรมิการามวรวิหารซึ่งอยู่ที่เขากระจก อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา เป็นการสืบทอดพระพุทธศาสนาให้ดำรงสืบต่อไป

 

ถัดมาอีก 2 ปี ในวันที่ 22 พฤษภาคม 2514 ยายเนื่อมเสียชีวิตลงหลังตกลงโอนที่ดินให้แก่วัดเพื่อเป็นที่ ธรณีสงฆ์ตามเจตนารมณ์ของยายเนื่อมและได้มีการตั้งผู้จัดการมรดกไว้ แต่การณ์ปรากฏว่าแทนที่ที่ดินดังกล่าวจะถูกจดทะเบียนโอนให้เป็นกรรมสิทธิ์ของวัดตามความประสงค์ของยายเนื่อมปรากฏว่า พระราชเมธาภรณ์ อดีตเจ้าอาวาส กลับแสดงเจตจำนงจะขายที่แปลงนี้เสีย แต่ ผู้จัดการมรดกเดิมที่มีจำนวน 3 คนไม่ยอม จึงได้มีการตั้งผู้จัดการมรดกใหม่คือ มูลนิธิมหามกุฏราชวิทยาลัยฯ ต่อมาก็ได้โอนที่ดินให้แก่มูลนิธิมหามกุฏฯ แล้วจดทะเบียนขายที่ดินในวันที่ 31 สิงหาคม 2533 ให้แก่บริษัท อัลไพน์ เรียลเอสเตท กับ บริษัท อัลไพน์ กอล์ฟแอนด์สปอร์ตคลับ โดยขายในราคาไร่ละ 1.5 แสนบาท รวมเป็นเงิน 130 ล้านบาท

 

คดีนี้เดิมเกิดจากกรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. กล่าวหานายเสนาะ เทียนทอง เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมช.มหาดไทย และเจ้าหน้าที่สำนักงานที่ดิน จ.ปทุมธานี สาขาธัญบุรี ฐานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบหรือโดยทุจริต โดยนายเสนาะ ใช้อำนาจในตำแหน่ง รมช.มหาดไทย สั่งการไม่อนุญาตให้วัดธรรมิการามฯ ได้มาซึ่งที่ดินของนางเนื่อม ตามที่นางเนื่อมทำพินัยกรรมยกให้วัด และได้มีการนำที่ดินไปขายให้แก่บริษัทอัลไพน์ เรียลเอสเตท จำกัด กับบริษัทอัลไพน์กอล์ฟ แอนด์สปอร์ตคลับ จำกัด

 

จากนั้นบริษัททั้งสองได้จดทะเบียนจำนองที่ดินเพื่อเป็นการชำระหนี้ไว้กับบริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด เป็นเงิน 220 ล้านบาท และจดทะเบียนขึ้นเงินจำนองอีก 70 ล้านบาท ภายหลังบริษัทได้ไถ่ถอนจำนองและรังวัดแบ่งขายให้บุคคลอื่น ส่วนที่ดินบริเวณสนามกอล์ฟอัลไพน์ เมื่อปี 2541 ได้โอนขายหุ้นให้นางกาญจนาภา หงษ์เหิน จำนวน 10 หุ้น นายชัยวัฒน์ เชียงพฤกษ์ กับ น.ส.บุญชู เหรียญประดับ คนละ 24,899,987 หุ้น และนายวิชัย ช่างเหล็ก 24,988,986 หุ้น ซึ่งเป็นคนงาน คนขับรถในครอบครัวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี

 

ต่อมาบุคคลทั้งสามโอนขายหุ้นให้แก่คุณหญิงพจมาน ชินวัตร อดีตภรรยานายทักษิณ และบุตรสาว 2 คน ต่อมา ป.ป.ช.เห็นว่า นายเสนาะ กระทำมิชอบ และได้ยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง แต่ศาลได้ยกฟ้อง เนื่องจากไม่ได้ตัวจำเลยมาศาลภายในกำหนดอายุความ ส่วนกรณีกล่าวหานายยงยุทธ เกิดขึ้นภายหลังคดีของนายเสนาะ ป.ป.ช.จึงมีมติให้แยกเรื่องออกมา

 

จากการไต่สวนของ ป.ป.ช. พบว่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2544 อธิบดีกรมที่ดินในขณะนั้น ได้มีคำสั่งให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนามสนามกอล์ฟอัลไพน์ ซึ่งอธิบดี กรมที่ดินเห็นว่า เป็นการจดทะเบียนโอนสิทธิในที่ดินของวัดธรรมิการามวรวิหาร จ.ปทุมธานี โดยมิชอบ ให้ยกเลิกโฉนดที่แบ่งแยก และเพิกถอนการโอนขาย ส่งผลให้ที่ดินของยายเนื่อมกลับคืนเป็นที่ธรณีสงฆ์อีกครั้ง แต่ผู้มีส่วนได้เสียได้อุทธรณ์คำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน

 

ต่อมาเรื่องมาถึงนายยงยุทธ ซึ่งขณะนั้นเป็นรองปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้มีคำสั่งเพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน โดยนายยงยุทธเห็นว่าการได้มาของที่ดินของวัดต้องได้รับอนุญาตจากรัฐมนตรี เมื่อปรากฏว่ารัฐมนตรี (นายเสนาะ) สั่งไม่อนุญาตให้วัดได้มาซึ่งที่ดินมรดกของนางเนื่อม วัดจึงยังไม่ได้มาซึ่งที่ดินดังกล่าว แต่ ป.ป.ช.กลับมีมติว่า นายยงยุทธ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ โดยเห็นว่า หากนาย ยงยุทธต้องการยกเลิกคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดิน ต้องเสนอเรื่องให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาก่อน

 

จากผลที่ ป.ป.ช.มีมติในครั้งนั้น นายยงยุทธต้อง ลาออกจากรองนายกรัฐมนตรี รวมถึง รมว.มหาดไทย (ตำแหน่งล่าสุด) หลังถูกป.ป.ช.ชี้มูลความผิด

 

ปัจจุบันผืนดินมรดกบุญของยายเนื่อม ได้ถูกแปรสภาพไปเป็น “หมู่บ้าน สนามกอล์ฟอัลไพน์” แล้วแต่กรมที่ดินก็ยังไม่ได้ดำเนินการใดๆ เพื่อเป็นโจทก์ยื่นฟ้องยึดคืนเพื่อนำที่ดินกลับมาเป็นที่ดินของสงฆ์ตามเจตนารมณ์ของยายเนื่อม

 

สำหรับ “ยงยุทธ วิชัยดิษฐ” หากตามขั้นตอนของกระบวนการยุติธรรมสุดท้ายพิสูจน์ออกมาว่า “นายยงยุทธ” กระทำผิด ก็ต้องรับโทษทัณฑ์ตามกฎหมายและอาจต้องเลิกเล่นการเมืองไปตลอดชีพ

 

ลำดับเหตุการณ์

– 4 ก.พ. 2553 ป.ป.ช.มีมติว่า นายเสนาะ เทียนทอง อดีต รมช. มหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ ที่ไม่อนุญาตให้ที่ดินของนางเนื่อม ตกเป็นของวัด แต่ต่อมาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่ง ยกฟ้องนายเสนาะ เพราะคดีขาดอายุความ

– 12 มิ.ย. 2555 ป.ป.ช.มีมติว่า นายยงยุทธ  วิชัยดิษฐ ปฏิบัติหน้าที่มิชอบที่เพิกถอนคำสั่งของอธิบดีกรมที่ดินที่มีคำสั่งให้ยกเลิกโฉนดที่ดินที่จดทะเบียนในนามสนามกอล์ฟอัลไพน์

– 26 ต.ค. 2559 ศาลอาญาคดีทุจริตรับฟ้องคดี ป.ป.ช. ฟ้องนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ ปฏิบัติหน้าที่ มิชอบ กรณีกระทำการข้างต้น