คอลัมน์ บ้านเกิดเมืองนอน: ได้เวลาชำระสะสางรัฐวิสาหกิจ!

หัวข้อข่าว: คอลัมน์ บ้านเกิดเมืองนอน: ได้เวลาชำระสะสางรัฐวิสาหกิจ!

ที่มา: แนวหน้า ฉบับวันที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2559 โดย  สิริอัญญา

 

เมื่อกลางสัปดาห์นี้มีรายงานข่าวว่าพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้หน่วยงานและ ผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องในการดูแลรัฐวิสาหกิจได้ทบทวนการดำรงตำแหน่งของกรรมการและผู้มีอำนาจของรัฐวิสาหกิจ และนำเสนอซุปเปอร์บอร์ดโดยเร็ว

 

เป็นข่าวที่สร้างความชื่นชมยินดีให้กับประชาชน ชาวไทยทั่วประเทศ ซึ่งตั้งตารอด้วยความหวังตั้งใจมาตั้งแต่วันที่ 22 พฤษภาคม 2557 แล้วว่า การยึดอำนาจครั้งนี้จะเป็นการเริ่มต้นของการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทย

 

และหนึ่งในหลายเรื่องของการปฏิรูปใหญ่ประเทศไทยก็คือการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ซึ่งสองปีเศษที่ผ่านมา กระทำได้แต่เพียงการจัดตั้งซุปเปอร์บอร์ดเพื่อกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ แต่ยังไม่ก้าวไปถึงขั้นปฏิรูปตัวรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง เพื่อเป็นกำลังวังชาในการพัฒนาสร้างสรรค์ประเทศชาติให้มั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนเลย

 

ในรัฐวิสาหกิจจำนวนร่วม 60 แห่ง ซึ่งถ้าหากจะรวมองค์การมหาชน หรือหน่วยงานของรัฐทุกลักษณะที่จัดตั้งขึ้นในรอบระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมานี้ ก็จะมีจำนวนเกือบ 300 แห่งนั้น มีเพียงรัฐวิสาหกิจบางแห่งเท่านั้นที่ได้มีการปรับปรุงคณะกรรมการเป็นบางส่วนบางตำแหน่ง ซึ่งเป็นขั้นผิวเผินในชั้นเปลือกนอกที่ยังไม่มีผลต่อการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงรัฐวิสาหกิจได้เลย

 

ในขณะที่รัฐวิสาหกิจจำนวนมากและหน่วยงานหรือองค์การมหาชนอีกเกือบทั้งหมดยังมีกรรมการและผู้บริหารเก่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นเส้นสายทางการเมืองของนักการเมือง และรับใช้นักการเมืองชนิดไม่กลัวฟ้าไม่เกรงดินแฝงฝังอยู่ ดังเดิมเป็นอันมาก

 

ยกตัวอย่างธนาคารกรุงไทย จำกัด(มหาชน)ก็ได้ หากส่องเข้าไปดูองค์ประกอบคณะกรรมการหรือผู้บริหารระดับสูงอย่างละเอียดและโดยมีข้อมูลภูมิหลังแล้ว ก็จะพบว่ายังมีเส้นสายลิ่วล้อบริวารที่รับใช้นักการเมืองอย่างสุดจิตสุดใจ ไม่กลัวคุกไม่กลัวตะรางอยู่เป็นจำนวนไม่น้อย นี่เป็นเพียงตัวอย่างหนึ่งซึ่งมีความชัดเจนตำตาและสร้างความอึดอัดขัดใจให้แก่ประชาชนที่ติดตามเฝ้ามองเรื่องนี้อยู่เป็นอันมาก

 

นายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้มุ่งเน้นในการคัดสรรคนดีมีฝีมือและเป็นผู้รู้ในกิจการของรัฐวิสาหกิจนั้นๆ เข้ามารับใช้ชาติบ้านเมือง ซึ่งถ้าหากสำเร็จดังประสงค์ก็จะเป็นการเดินจังหวะก้าวที่สองในการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจหลังจากมีการจัดตั้งซุปเปอร์บอร์ดขึ้นแล้ว

 

การปฏิรูปใหญ่รัฐวิสาหกิจจะต้องมุ่งและคำนึงถึงเรื่องสำคัญๆ ดังต่อไปนี้

ประการแรก ต้องทำให้รัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐ ทั้งหมดปลดแอกจากเส้นสายเครือข่ายลิ่วล้อบริวารของนักการเมืองที่ส่งเข้ามากินบ้านกินเมืองต่อเนื่องนานนักหนาแล้วให้ได้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด ทั้งกรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐดังกล่าวจะต้องเป็นคนดีมีฝีมือและมีความรู้ในกิจการของหน่วยงานนั้นๆ อย่างแท้จริง เพื่อทำให้รัฐวิสาหกิจเป็นกำลังของชาติอย่างแท้จริง

 

ประการที่สอง ทุกรัฐวิสาหกิจและทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องมียุทธศาตร์เป้าหมายและแผนงานที่ชัดเจน ในการดำเนินภารกิจที่เป็นที่มาของการจัดตั้งรัฐวิสาหกิจนั้นให้เป็นมรรคผลอย่างชัดเจน โดยเฉพาะคือต้องปฏิรูปให้มีประสิทธิภาพสูง ก้าวหน้า ทันสมัย รับใช้ประชาชน และพิทักษ์รักษาผลประโยชน์แห่งชาติ ซึ่งในประการนี้อาจจำเป็นต้องยึดคืนรัฐวิสาหกิจที่ถูกเบียดเบียนหรือเบียดบังหรือใช้เป็นเครื่องมือแสวงหา ผลประโยชน์ของนักการเมืองและลิ่วล้อบริวาร

 

จะต้องขจัดการแอบอ้างหรือแอบอิงรัฐวิสาหกิจหรือ หน่วยงานของรัฐแต่ผลที่แท้จริงคือการแสวงหาผลประโยชน์ ให้กับนักการเมืองหรือเอกชนให้สำเร็จเป็นมรรคผลโดยพลัน เพราะตรงนี้แหละคือการรั่วไหลของการโกงบ้าน กินเมืองขนาดใหญ่ที่สุดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ทุกเมื่อเชื่อวัน

 

ประการที่สาม จะต้องทำให้ทุกรัฐวิสาหกิจและหน่วยงานของรัฐจัดทำบัญชีงบดุลและกำไรขาดทุนที่เป็นมาตรฐาน เช่นเดียวกับระบบบัญชีของเอกชน ต้องนำเอาทรัพย์สินของชาติที่อยู่นอกบัญชีหรือหลบซ่อนซุกอยู่แล้วใช้หาประโยชน์ส่วนตนของนักการเมืองและลิ่วล้อบริวารกลับเข้าสู่ระบบบัญชีที่ถูกต้องโดยเร็วที่สุด เพื่อการนี้ จะต้องตีมูลค่าทุนของทุกรัฐวิสาหกิจเป็นตัวเงินและเป็นทุนเรือนหุ้น และให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าของหุ้นดังกล่าว โดยต้องบันทึกเข้าบัญชีเป็นสินทรัพย์คงคลัง ที่ใช้แสดงฐานะของประเทศได้อย่างแท้จริง

 

บรรดาที่ดิน ทรัพย์สินและสิทธิประโยชน์ของทุกรัฐวิสาหกิจและทุกหน่วยงานของรัฐจะต้องถูกตีราคาเป็นราคาปัจจุบันเพื่อแสดงมูลค่าในบัญชีงบดุลของหน่วยงานเพื่อทำให้ฐานะที่แท้จริงมีความถูกต้องแท้จริง แทนที่จะโกหกปกปิดบิดเบือนดังที่เป็นอยู่ในขณะนี้

 

ประการที่สี่ จะต้องจัดระเบียบบริหารรัฐวิสาหกิจที่เป็นแบบเอกชน ที่มีประสิทธิภาพสูง ก้าวหน้า และทันสมัย โปร่งใสและตรวจสอบได้ทุกเมื่อเชื่อวัน ไม่ปล่อยให้เป็นแหล่งโกงบ้านกินเมืองอยู่ในแดนสนธยาอีกต่อไป

 

ประการที่ห้า ต้องจัดขบวนรัฐวิสาหกิจให้แบกรับภารกิจ แต่ละด้าน ในฐานะที่เป็นกองทัพเศรษฐกิจของชาติ ที่มียุทธศาสตร์ ยุทธวิธี และกลยุทธ์ในการดำเนินงานอย่างชัดเจน

 

ถ้าไม่ทำห้าประการนี้ ก็อย่าหวังว่าจะปฏิรูปรัฐ วิสาหกิจให้เป็นผลสำเร็จ!