หัวข้อข่าว: สั่งปิดถนนรุกป่าสงวนแห่งชาติ’มทบ.44‘พบหลักฐาน‘เทศบาลต.ละอุ่น‘ใช้งบหลวงเอื้อนายทุน/เล็งส่งปปช.
ที่มา: ไทยโพสต์ ฉบับวันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
ระนอง * ผบ.มทบ.44 สั่งปิดถนน “ซอยพม่าข้าม” หลังพบเทศบาลตำบลละอุ่นใช้งบพัฒนาจังหวัดระนองกว่า 3 ล้านสร้างถนนคอนกรีตระยะทาง 1.5 กม. รุกล้ำเขตป่าสงวนแห่งชาติ ส่อเจตนาเอื้อนายทุนปลูกยางพารา-ปาล์มน้ำมัน เตรียมฟันนายกเทศมนตรี พร้อมรวบรวมหลักฐานส่งเรื่องให้ ป.ป.ช.ดำเนินการต่อไป
จากกรณีที่ พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 44 (ผบ.มทบ.44) ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่จังหวัดระนอง-ชุมพร ได้มอบหมายให้ชุดเฉพาะกิจแก้ไขปัญหาการบุกรุกที่ดินของรัฐ นำโดย พ.ท.ดุสิต เกสรแก้ว นายทหารยุทธโยธา บก.ควบคุม มทบ.44 นำกำลังทหารฝ่ายเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทั้งด้านกฎหมาย เจ้าหน้าที่ที่ดินและฝ่ายเทคโนโลยี ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อร้องเรียนที่มีการใช้งบประมาณพัฒนาจังหวัดกว่า 3 ล้านบาท สร้างถนนคอนกรีตบริเวณหมู่ 3 ต.บางพระใต้ อ.ละอุ่น จ.ระนอง รุกเข้าไปในเขตป่าสงวนแห่งชาติเป็นระยะทางยาว 1.5 กิโลเมตร
ทั้งนี้ ตรวจสอบพบว่า บริเวณดังกล่าวมีชื่อว่า “ซอยพม่าข้าม” อยู่ในเขตเทศบาลตำบลละอุ่น ติดกับถนนเส้นหลักสายละอุ่น แต่ปรากฏว่าไม่มีชาวบ้านอาศัยอยู่แม้แต่รายเดียว อีกทั้งยังส่อเจตนาสร้างถนนเพื่อเอื้อประโยชน์ให้กับกลุ่มนักการเมือง เจ้าหน้าที่รัฐ นายทุนที่เข้ายึดครองที่ดินทั้งสองฝั่งถนนปลูกยางพาราและปาล์มน้ำมันจำนวนมาก นอกจากนี้ยังพบว่าในพื้นที่ดังกล่าวเป็นทำเลทอง ติดกับแม่น้ำละอุ่น มีน้ำตก และใกล้ท่าเรือออกสู่ทะอันดามัน ตามข่าวที่นำเสนอนั้น
ล่าสุดเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พล.ต.อุดมวิทย์ อโนวัลย์ ผบ.มทบ.44 กล่าวถึงความคืบหน้าเรื่องดังกล่าวว่า หลังจากชุดเฉพาะกิจฯ ลงพื้นที่ตรวจสอบจนได้หลักฐานแน่ชัด และร่วมกับหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.1 (ละอุ่น) เข้าทำการตรวจยึดพื้นที่ พร้อมแจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สภ.อ.ละอุ่น โดยพนักงานสอบสวนแจ้งว่าได้ลงพื้นที่สอบสวน พบถนนเส้นดังกล่าวก่อสร้างโดยเทศบาลตำบลละอุ่น และผู้ถูกกล่าวหาตามหลักฐานคือ นายกเทศมนตรี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องรวบรวมหลักฐานส่งให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปแล้ว
พล.ต.อุดมวิทย์กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาตนได้เป็นประธานการประชุมร่วมกับนายวิรัตน์ รักษ์พันธ์ รองผู้ว่าฯ ระนอง, นายคฤษาร สาย ศิวานนท์ ปลัดอำเภอละอุ่น, พ.ต.อ.เสกสันต์ แก้วสว่าง ผกก.สภ.อ.ละอุ่น, นายโสภน ชูชาติ หัวหน้าหน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.1 (ละอุ่น), นายสมพัฒน์ เพิ่มมาก เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส และผู้เกี่ยวข้องส่วนต่างๆ รวม 16 คน ตนเสนอว่า ในเมื่อการก่อสร้างถนนบุกรุกป่าสงวนโดยไม่ได้รับอนุญาต และถนนที่ก่อสร้างระยะทาง 15 กม. อยู่ในเขตป่าสงวน ตนในฐานะ ผบ.มทบ.44 และ บก.ควบคุม มทบ.44 ต้องเข้ามาเกี่ยวข้องตามคำสั่ง คสช.ที่ 13/59 จึงจำเป็นต้องทำตามหน้าที่โดยการประกาศปิดถนนดังกล่าวเพื่อป้อง กันไม่ให้เอื้อประโยชน์กับผู้บุกรุกป่าได้อีกต่อไป
“แนวทางปฏิบัติคือ ให้ติดป้ายประกาศตรวจยึดปิดถนนให้รู้โดยทั่วกัน โดยให้ผู้ครอบครองออกมาแสดงตัวต่อกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ภายในวันที่ 16 พ.ย.59 จากนั้นวันที่ 30 พ.ย.59 ให้ปิดถนนโดยใช้แท่งปูนซีเมนต์หรือสิ่งกีดขวางอื่นๆ ตามสมควร ซึ่งในที่ประชุมทุกฝ่ายเห็นด้วยตามนั้น เพราะผมทำงานไม่ได้เพียงหวังสร้างภาพแค่ยืนถ่ายรูปโชว์แล้วจบกัน แต่ต้องปฏิบัติให้เกิดผลจริง เป็นไปตามนโยบายทวงคืนผืนป่าของรัฐบาลและ คสช.” พล.ต.อุดมวิทย์กล่าว
ด้าน น.ส.สุวรรณธนา แย้มแก้ว ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ต.บางพระใต้ กล่าวว่า ได้นำป้ายไวนิลขนาดใหญ่ไปติดไว้ริมถนนสายดังกล่าวแล้ว โดยระบุข้อความว่า “ถนน คสล.สายนี้มิได้ขออนุญาตใช้ประโยชน์พื้นที่ป่าจากกรมป่าไม้ ระยะทาง 1,886 เมตร จึงมีความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2485 มาตรา 54 และมาตร 72 ตรี และความผิดตาม พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ.2507 มาตรา 14 และมาตรา 31วรรคสอง (3) ฐานก่อสร้าง แผ้วถาง ยึดถือ ครอบครองทำประโยชน์อยู่อาศัยในที่ดิน หรือกระทำด้วยประการใดๆ เป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ หน่วยป้องกันรักษาป่าที่ รน.1 (ละอุ่น) ได้แจ้งความกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ละอุ่น แล้ว”.